ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ 083-792-5426
Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.
This is default featured post 2 title
Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.
This is default featured post 3 title
Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.
This is default featured post 4 title
Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.
This is default featured post 5 title
Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.
ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามตำแหง บางกะปิ 083-792-5426
วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ตั้งรางวัลนำจับ1แสนเจ้าของบริษัทตุ๋นเที่ยว
วันนี้ (27 ต.ค.) ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.ปัญญา ปิ่นสุข รอง ผบก.ปคบ.และพ.ต.อ.ชำนาญเดช แตงจุ้ย ผกก.1 บก.ปคบ. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากการซื้อบริการทัวร์ท่องเที่ยวต่างประเทศ ของบริษัทนำเที่ยวแห่งหนึ่ง รวมกันกว่า 50 คน และได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บริหารบริษัทเมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่า พนักงานสอบสวน บก.ปคบ.ได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องไปขออนุมัติหมายจับผู้กระทำผิดกรณีดังกล่าวต่อศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยศาลได้อนุมัติหมายจับ นายเชาว์ โล่ห์เพชรรัตน์ อายุ 27 ปี และนางชัญญา ยุพลัฒ์ อายุ 28 ปี สองสามีภรรยา ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกง และความผิดเกี่ยวกับการโฆษณาอันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค ทั้งนี้ผู้เสียหายได้รวบรวมเงินให้รางวัลนำจับเป็นเงิน รายละ 50,000 บาท รวมเป็น 100,000 บาท หากจับกุมตัวได้.
รอง ผบช.น.ตรวจสปาไม่มีใบอนุญาต
รอง ผบช.น.สุ่มตรวจสปา "ธาราวดี" พบดัดแปลงเกินกว่าขออนุญาต แถมเปิดสปาไม่มีใบอนุญาต เตรียมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ ( 27 ต.ค.) เมื่อเวลา 21.30 น. พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.สิทธิภาพ ใบประเสริฐ ผกก.สน.คลองตัน นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ บช.น. และสน.คลองตัน เข้าตรวจสอบภายในสถานบริการธาราวดี รีสอร์ท แอนด์ สปา ตั้งอยู่เลขที่ 1 ซอยพัฒนาการ 44 ถนนพัฒนาการ แขวงและเขตสวนหลวง โดยสถานบริการดังกล่าวแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นอาบ อบ นวด มีการขออนุญาตเปิดบริการไว้จำนวน 80 ห้อง 80 เตียง แต่จากการตรวจสอบพบว่าในส่วนของห้องสูทมีการดัดแปลงภายในห้องด้วยการเพิ่มเตียงห้องละ 2 เตียง ซึ่งเกินจากที่ขออนุญาตไว้ ทั้งนี้ในส่วนที่ 2 เป็นส่วนที่เปิดให้บริการสปาชื่อ แกรนด์ธารา ตั้งอยู่ชั้นที่ 2 ของอาคาร เจ้าหน้าที่ไม่พบใบอนุญาตเปิดให้บริการแต่อย่างใด
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบในส่วนของอาบอบนวดนั้นพบว่ามีการดัดแปลงจากที่ขออนุญาตไว้จำนวน 80 ห้อง 80 เตียงด้วยการเพิ่มเตียงของห้องสูทเป็นห้องละ 2 เตียง และในส่วนของสปาชั้น 2 นั้นไม่ได้มีการขอใบอนุญาตเอาไว้ โดยทางเจ้าของอ้างว่ากำลังดำเนินการขอใบอนุญาตอยู่ แต่กลับเปิดให้บริการแล้ว ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509 จึงแจ้งข้อหาดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต กับส่วนของอาบ อบ นวด และแจ้งข้อหาเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตกับส่วนที่ให้บริการสปา ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ตร.นำเครื่องตรวจสารเสพติดลุยตรวจผับกทม.
รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นำทีมทดลองใช้เครื่องตรวจสารเสพติดแบบใหม่ลงตรวจร้านเหล้า - ผับ กทม. ตรวจจับผู้เสพยาได้ 2 ราย
วันนี้ ( 28 ต.ค.) เมื่อเวลา 00.00 น. พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ( รอง ผบช.น.) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจจำนวน 30 นาย ลงพื้นที่ตรวจสถานบันเทิงตามนโยบายผู้บังคับบัญชา โดยเข้าตรวจที่ร้านเจิดจรัส ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร ซึ่งในการตรวจครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องตรวจสารเสพติด ยี่ห้อไบโอเซนซ์-600(Biosens-600) ลงพื้นที่ตรวจเป็นครั้งแรก โดยสุ่มตรวจจำนวน 7 ราย เป็นชาวต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา 1 รายซึ่งเป็นพนักงานภายในร้าน ผลการตรวจทั้ง 7ราย ออกมาเป็นเนกาทีฟ ไม่พบสารเสพติดชนิดใด
สำหรับเครื่องตรวจดังกล่าวสามารถตรวจหาสารเสพติดได้จำนวน 7 ชนิด ได้แก่ กัญชา, ยาเค, ยาอี, ยาบ้าหรือกลุ่มแอมแฟตามีน, ยาไอซ์, โคเคนและยากลุ่มฝิ่น เฮโรอีน มอร์ฟีน ซึ่งหลักการทำงานของเครื่องนี้จะใช้น้ำลายหรือเหงื่อ ของผู้ต้องสงสัย มาป้ายบนแผ่นตรวจ จากนั้นจะนำเข้าเครื่องตรวจโดยจะผ่านกระบวนการความร้อนจนระเหยเป็นไอ และกลายเป็นโมเลกุล แล้วเครื่องจะประมวลผลจากฐานข้อมูลยาเสพติดทั้ง 7 ชนิดในเครื่อง แล้วจึงปริ้นท์ผลว่าผู้ตรวจเสพสารเสพติดชนิดใด เสพมามากและแรงแค่ไหน โดยจะใช้เวลาตรวจประมาณ 2 นาทีต่อ1คนซึ่งใช้เวลาที่น้อยมากจึงทำให้สะดวกและรู้ผลได้อย่างรวดเร็ว
จากนั้นกำลังเจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปตรวจที่ร้านไอรอน ภายในซอยลาดพร้าว122 แขวง-เขตวังทองหลาง โดยสุ่มตรวจโดยใช้เครื่องดังกล่าว ประมาณ 20 คน พบผู้เสพสารเสพติดจำนวน 2 รายเสพยาไอซ์ 1 รายและกัญชา 1 ราย เจ้าหน้าที่นำตัวส่งสน.วังทองหลาง ดำเนินคดีต่อไป.
ตร.นำเครื่องตรวจหาสารเสพติดใหม่มาทดลองใช้
รอง ผบช.น.สนองนโยบาย "บิ๊กแจ๊ด" เตรียมนำเครื่องตรวจสารเสพติดใหม่มาทดลองใช้ตรวจสถานบันเทิง เผยสุดไฮเทค ตรวจยาได้เจ็ดชนิด ใช้เวลาแค่สองนาทีต่อคน
วันนี้ ( 27 ต.ค.) เมื่อเวลา22.30น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น.พร้อมทั้งตัวแทนผู้นำเข้าเครื่องตรวจสารเสพติด ยี่ห้อไบโอเซนซ์-600 (Biosens-600) หรือเครื่องตรวจหาสารเสพติด มาสาธิตวิธีการใช้ต่อสื่อมวลชนโดยจะนำไปทดลองใช้ในการลงพื้นที่ตรวจสถานบันเทิงที่ได้ทำอยู่เป็นประจำตามคำสั่ง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. หากใช้งานได้ดีจะได้นำเสนอต่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เพื่อพิจารณาจัดซื้อมาประจำต่อไป
โดยเครื่องนี้สามารถตรวจหาสารเสพติดได้จำนวน 7 ชนิด ได้แก่ กัญชา,ยาเค ,ยาอี,ยาบ้าหรือกลุ่มแอมแฟตามี,ยาไอซ์,โคเคนและยากลุ่มฝิ่น เฮโรอีน มอร์ฟีน ซึ่งหลักการทำงานของเครื่องนี้จะใช้น้ำลาย หรือเหงื่อ ของผู้ต้องสงสัย มาป้ายบนแผ่นตรวจ จากนั้นจะนำเข้าเครื่องตรวจโดยจะผ่านกระบวนการความร้อนจนระเหยเป็นไอ และกลายเป็นโมเลกุล แล้วเครื่องจะประมวลผลจากฐานข้อมูลยาเสพติดทั้ง 7 ชนิดในเครื่อง แล้วจะปริ้นผลว่าผู้ตรวจเสพสารเสพติดชนิดใดเสพมามากและแรงแค่ไหน โดยจะใช้เวลาตรวจประมาณ 2 นาทีต่อ1คนซึ่งใช้เวลาที่น้อยมากจึงทำให้สะดวกและรู้ผลได้รวดเร็ว นอกจากนี้เครื่องตัวนี้ยังสารรถนำสารประกอบที่ต้องสงสัยที่ติดอยู่กับภาชนะหรือวัสดุต้องสงสัยเพื่อตรวจหาสารเสพติดได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม เจ้าเครื่องนี้ยังไม่ได้รับการรองรับในประเทศไทย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่นำเข้ามาทดลอง โดยในต่างประเทศนั้นต่างให้การยอมรับเครื่องตัวนี้แบะมีการใช้งานจริงในหลายประเทศ ส่วนความคาดเคลื่อนนั้นอาจเป็นไปได้หากมีการตรวจเป็นจำนวนมาก จึงต้องมีการทำความสะอาดเครื่องทุกครั้งหลังจากตรวจไป1คน ใช้เวลาทำความสะอาด1นาทีต่อคน
พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ เผยว่าจากการตรวจสถานบันเทิงในแบบเดิมนั้น จะต้องมีการให้ผู้เที่ยวถือขวดแล้วเข้าไปปัสสาวะ มาใส่ขวดเพื่อที่จะนำมาตรวจซึ่งมีความวุ่นวายและล้าช้าเป็นอย่างมาก จึงได้ยกเลิกไป หลังจากนั้นได้มีบริษัท ที่นำเข้าเครื่องยี่ห้อไบโอเซนซ์-600ได้มาเสนอจึงได้นำมาเพื่อทดลองโดยจะทำการทดลอง3ครั้งหากได้ผลออกมาเป็นที่น่าพอใจจะทำเรื่องเสนอต่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น เพื่อจัดซื้อมาและอาจนำไปปรับใช้ในจุดตรวจ ยาพาหนะหรือจุดตรวจแอลกอฮอล์อีกด้วยโดยหากนำมาใช้อาจจะนำมาใช้ในการตรวจเบื้องต้นเพื่อคัดกรองผู้ต้องสงสัยเพื่อที่นำมาตรวจปัสสาวะเพื่อให้ผลออกมาแน่ชัดอีกที
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ในการทดสอบเบื้องต้นได้นำตัวอย่างผู้เสพยาเสพติดจำนวน 2 ราย มาทำการทดสอบ โดยผลปรากฎหว่า ผู้ต้องหารายแรกมีสารแอมเฟตามีนประเภทยาบ้า และยาไอซ์ ส่วนผู้ต้องหารายที่ 2 มีสารยาบ้า ยาไอซ์ และกัญชา ซึ่งทั้ง 2 คน ก็รับสารภาพว่าเพิ่งเสพยาเสพติดมา ตรงกับผลที่ตรวจออกมาทั้ง 2 ราย
ฟันคออาจารย์หนุ่มสอนศิลปะตายคาที่
วันนี้ ( 28 ต.ค.) เมื่อเวลา 01.30 น. ร.ต.อ.วันชัย พันธ์พัฒน์ พงส.(สบ.2) สน.บางยี่ขัน รับแจ้งพบศพชายถูกทำร้ายเสียชีวิตบนบาทวิถี ริมถนนบรมราชชนนี ใกล้ห้างสรรพสินค้าโลตัส แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน แพทย์นิติเวชรพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าร้านแว่นบิวตี้ฟูล พบศพชายทราบชื่อนายธนิต โพธิ์กลาง อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 285 หมู่ 4 ต.โขงเจียม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี เป็นอาจารย์สอนศิลปะโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ สภาพศพนอนตะแคงซ้าย สวมเสื้อเชิ๊ตลายขาวเขียว กางเกงยีนส์ รองเท้าหนังสีน้ำตาล มีบาดแผลถูกฟันด้วยมีดเข้าที่บริเวณลำคอด้านซ้ายเป็นแผลแหวะ เลือดไหลนองเต็มพื้น ข้างตัวพบกระเป๋าสะพายสีน้ำตาลภายในมีอุปกรณ์วาดภาพ และภาพวาดจำนวนหนึ่งและโทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่อง
จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการทราบว่าก่อนเกิดเหตุเห็นผู้ตายเดินอยู่ริมถนนตามลำพังมาตามถนนบรมราชชนนีขาออก ก่อนจะมีกลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานผ่านมาประมาณ 4 คันไม่ทราบสีและทะเบียน เมื่อรถแล่นผ่านผู้ตายไปได้เล็กน้อย กลุ่มวัยรุ่นได้ขี่รถย้อนสวนเลนกลับมาหาผู้ตาย ก่อนที่ 1 ในกลุ่มจะลงพูดจากับผู้ตายในทำนองหาเรื่องจากนั้นก็ใช้มีดดาบที่เตรียมมาฟันเข้าที่ลำคอผู้ตายทันที จากนั้นก็วิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ขี่หลบหนีไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าช่วงที่กลุ่มวัยรุ่นซึ่งน่าจะเป็นกลุ่มเด็กแว้นขี่รถผ่านผู้ตาย อาจจะถูกผู้ตายตะโกนต่อว่า ทำให้กลุ่มเด็กแว้นไม่พอใจ ขี่รถวนย้อนกลับมาใช้อาวุธมีดฟันผู้ตายก่อนขี่รถหลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งติดตั้งอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุเพื่อติดตามหาตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ทำร้ายผู้ตายจนเสียชีวิตมาดำเนินคดีต่อไป.
โจรทมิฬยิงถล่มดับอดีตอส.สยองคาสวนยาง
เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 28 ต.ค. ร.ต.ท.สิทธิพันธ์ สุวรรณโณ รอง สวป.สภ.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา รับแจ้งพบศพถูกยิงเสียชีวิตในสวนยางพารา พื้นที่บ้านกูเบ หมู่ 2 ต.ตะโละหะลอ จึงประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบศพนายมูหาหมัด มูซอ อายุ 34 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามตามศีรษะและร่างกายหลายแห่ง ใกล้กันพบรถ จยย.จอดอยู่ 1 คัน ตรวจสอบพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 และอาก้า จำนวนกว่าสิบปลอกตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นอดีตอาสาสมัครอำเภอรามัน และได้ลาออกไปเมื่อปี 52 โดยก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขี่รถ จยย.เข้าไปในสวนยางพาราตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา จนมีผู้มาพบศพในช่วงเช้า ซึ่งชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงได้ยินเสียงคล้ายเสียงปืนดังเป็นชุดๆ แต่ก็ไม่มีใครกล้าออกมาดู
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายกับกลุ่มคนร้ายน่าจะรู้จักกันและนัดหมายเข้าไปพูดคุยตกลงปัญหาบางอย่าง แต่ไม่เป็นผล จึงถูกยิงเสียชีวิตคาที่ ส่วนสาเหตุคาดว่าเป็นเรื่องขัดแย้งธุรกิจบางอย่าง หรือเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ทั้งนี้ เมื่อปี 2547 นายสะมะแอ มูซอ อายุ 52 ปี พ่อของผู้ตายซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ต.อาซ่อง อ.รามัน ได้ถูกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ ใช้อาวุธปืนประกบยิงจนเสียชีวิตบนถนนภายในหมู่บ้านมาแล้ว.
บช.น.ประชุมล่าตัวอดีตตร.สน.ประชาชื่น
วันนี้ (27 ต.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. รับผิดชอบงานด้านยาเสพติด กล่าวภายหลังการประชุมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัว จ.ส.ต.ประวิน ทวยภา อดีตตำรวจ สน.ประชาชื่น และภรรยาคือ นางสุชาดา หรือนางเพ็ญ ทวยภา ผู้ต้องหาในคดีค้ายาเสพติดรายสำคัญ เครือข่าย พ.ท.ยี่เซ ว่า ภายหลังจากที่มีการลงไปตรวจค้นบ้านพักของ นางสุชาดา หรือเจ๊เพ็ญ ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี รวม 5 หลัง คาดว่าสถานที่ดังกล่าวน่าจะใช้เป็นศูนย์กลางในการวางแผนลำเลียงยาเสพติด และเป็นจุดที่พักยา ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานไปทีละจุด และให้เจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานที่คาดว่าจะสาวไปถึงผู้ร่วมขบวนการคนอื่นๆ ของเครือข่ายดังกล่าว
พล.ต.ต.ฐิติราช กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบยังพบว่า รถยนต์ที่เจ๊เพ็ญใช้ยังคงจอดอยู่ภายในบ้านที่ไปตรวจสอบเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา จึงคาดว่าเจ๊เพ็ญน่าจะยังหลบหนีอยู่ในกรุงเทพมหานคร หรือปริมณฑล โดยมีชุดสอดแนมคอยเฝ้าสังเกตุการณ์ให้ และเชื่อว่ายังไม่ได้หนีออกไปนอกประเทศ อย่างไรก็ตาม จะประสานสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้ช่วยตรวจสอบข้อมูลของผู้ต้องหาหลบออกนอกประเทศต่อไป
รอง ผบช.น. กล่่าวต่อว่า จากข้อมูลของชุดสืบสวนระบุด้วยว่า เจ๊เพ็ญเคยเป็นอดีตนักร้องคาราโอเกะแห่งหนึ่ง ตรงข้ามกับ สน.ประชาชื่น ก่อนจะมาเป็นภรรยา จ.ส.ต.ประวิน เมื่อครั้งยังรับราชการอยู่ที่ สน.ประชาชื่น โดยมีลูกชายด้วยกัน 1 คน คาดว่า ทั้งนี้เชื่อว่าทั้ง 3 คนได้หลบหนีไปด้วย ซึ่งถ้าหากได้ตัวเจ๊เพ็ญมาแล้ว ก็จะสามารถหาความเชื่อมโยงถึงตัว พ.ท.ยี่เซ หรือนายชัยวัฒน์ พรสกุลไพศาล ผู้ต้องหาชาวพม่า ได้อย่างแน่นอน.
ศาลเพชรบุรีไฟเขียวหมายจับ "หมอสุพัฒน์" ฆ่าคนตาย-ซ่อนเร้นศพ
ความคืบหน้าคดีของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ หลังพบโครงกระดูก 3 โครงในไร่ที่ จ.เพชรบุรี ต่อมามีการตรวจสอบดีเอ็นเอจนทราบว่า 1ใน3 นั้นเป็นแรงงานชาวพม่าในไร่ของหมอชื่อนายต้า และ นพ.สุพัฒน์ยังถูกโยงให้เกี่ยวข้องกับนายสามารถ นุ่มจุ้ย และน.ส.อรษา เกิดทรัพย์ 2 สามีภรรยาที่หายไปและไปพบรถยนต์ที่บ้าน นพ.สุพัฒน์ โดยทางญาติผู้ตายปักใจเชื่อว่า หมอสุพัฒน์ อยู่เบื้องหลังทั้งหมดนั้น
วันนี้(27 ต.ค.) พ.ต.อ.พิชัย ปกป้อง ผกก.สภ.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี กล่าวว่าขณะนี้ศาลจังหวัดเพชรบุรี มีคำสั่งอนุมัติออกหมายจับ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ อดีตอายุรแพทย์ รพ.ตำรวจ ในข้อหาฆ่าคนโดยเจตตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพแล้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมรายละเอียดหลักฐานและผลการสอบปากคำพยาน ส่งให้ศาลพิจารณาไปก่อนหน้านี้ ส่วนการเข้าไปแจ้งข้อหากับ น.พ.สุพัฒน์นั้น ขอประชุมคณะพนักงานสอบสวนอีกครั้งว่าจะเข้าแจ้งข้อหาเพิ่มเติม และสอบปากคำ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เพิ่มเติมในเรือนจำเมื่อใด เนื่องจากตอนนี้ทางตำรวจต้องเร่งการสรุปสำนวนความเห็นในคดีกักขังหน่วงเหนี่ยว ลักทรัพย์ รับของโจรให้อัยการพิจารณาความเห็นสั่งฟ้องในสัปดาห์หน้าก่อนเพราะคดีใกล้ครบกำหนดแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่าการอนุมัติหมายจับ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ เพิ่มเติมในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าครั้งนี้ สืบเนื่องจากมีการขุดพบโครงกระดูกภายในไร่ของหมอสุพัฒน์ ซึ่งเป็นแรงงานชาวพม่า ทราบชื่อต่อมาคือนายต้า ก่อนจะมีการสืบสวนสอบสวนคนงานพม่าทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและบางคนที่กลับประเทศพม่าไปแล้วรวมถึงพยานบุคคลอีกหลายปากซึ่งเป็นเพื่อนแรงงานชาวพม่าที่เข้ามาทำงานอยู่ด้วยกันในขณะนั้น ประกอบกับพยานแวดล้อมรายอื่น วัตถุพยาน ผลตรวจดีเอ็นเอ และปืนที่ตรวจยึดได้ภายในบ้านของพ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ทั้งที่จังหวัดเพชรบุรี และ จ.นนทบุรี นำไปสู่การขออนุมัติศาลออกหมายจับในที่สุด
ด้าน พล.ต.ต.พีระชาติ รื่นเริง ผบก.ภ.จ.เพชรบุรี กล่าวถึงกรณีที่ทนายความส่วนตัวของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการชี้แจงหลักฐานการได้รับอนุญาตและครอบครองอาวุธปืนของหมอสุพัฒน์ที่มีอาวุธปืนบางส่วนเพิ่มขึ้นซึ่งยังไม่มีหลักฐาน และอ้างว่าไม่รู้ว่ามีอาวุธปืนเพิ่มขึ้นมาได้อย่างไร ว่าในการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจเรามีหลายหน่วยงานและยังมีชาวบ้านมามุงดูด้วยความสนใจ รวมถึงสื่อมวลชนเอง เรายืนยันว่าทุกขั้นตอนตำรวจทำด้วยความโปร่งใสที่สุด และตำรวจไม่ได้ทำงานตามลำพังมีพยานเข้าร่วมตรวจค้นตลอด จึงไม่มีทางที่จะมีอาวุธปืนเพิ่มขึ้นมา เพียงแต่ทนายและลูกชายของหมออาจจะไม่รู้ ดังนั้นต้องถาม นพ.สุพัฒน์เอง บางครั้งคนที่ชอบสะสมก็จะซื้อเก็บไปเรื่อย ๆจนบางครั้งก็ลืม ต้องค่อย ๆลำดับเรื่องราว ตรงนี้ตำรวจให้ความเป็นธรรมทุกฝ่ายแน่นอน
พล.ต.ต.พีระชาติ กล่าวต่อไปอีกว่าในการทำคดีนี้แรก ๆ คณะพนักงานสอบสวนมีความกดดันมาก แต่พอมีหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยทั้ง กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค7 ทั้งตำรวจกองปราบ และมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงเข้ามาร่วมหลายนาย ทุกคนก็อุ่นใจ ทำโดยมีผู้ใหญ่มารับรู้ เพราะถ้าบางคนเขาทำด้วยตัวเองตามลำพังคนก็จะมองว่าจริงไหม โกหกไหม กลั่นแกล้งกันหรือเปล่า และที่สำคัญสื่อมวลชนติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด การกลั่นแกล้งใครยิ่งทำได้ยาก.
สลดไม้ป่าเดียวกันรักขม คว้ามีด-ค้อนดวลเดือด สุดท้ายตายทั้งคู่
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 27 ต.ค. ร.ต.อ.เสถียร พันธริยเสถียร พนักงานสอบสวน สภ.เถิน จ.ลำปาง รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายที่บ้านเลขที่ 17/28 หมู่ 7 ต.ล้อมแรด อ.เถิน ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ สภ.เถิน จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมชุดสืบสวน และแพทย์ รพ.เถิน ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวมีรั้วรอบขอบชิต ภายในห้องรับแขกพบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย 2 ราย นอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพเกยก่ายกัน
รายแรกเป็นชายสูงอายุ ทราบชื่อ นายภานุพักต์วัชยอานนท์ หล้าอ้าย อายุ 55 ปี เจ้าของบ้าน ส่วนอีกรายเป็นชายวัยประมาณ 25-30 ปี ยังไม่ทราบชื่อ โดยสภาพศพของ นายภานุพักต์วัชยอานนท์ มีบาดแผลถูกตีด้วยค้อนปอนด์เข้าที่ท้ายทอยเป็นแผลฉกรรจ์ ในขณะที่ศพของชายไม่ทราบชื่อมีร่องรอยถูกแทงด้วยของมีคมเข้าที่บริเวณหน้าอก 1 แห่ง คาดว่าทั้งคู่เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5-8 ชม. นอกจากนี้ที่ข้างศพยังพบมีดทำครัวยาวประมาณ 1 ฟุต 1 เล่ม และค้อนปอนด์อีก 1 ด้าม จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวน นางศรีออน สมหวัง อายุ 58 ปี พี่สาวของ นายภานุพักต์ วัชยอานนท์ ให้การว่า น้องชายทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ที่สถานีขนส่ง อ.เถิน แผนกขายตั๋วโดยสาร เคยมีภรรยามาก่อนแต่หย่าร้างกันไปนานแล้ว เนื่องจากนายภานุพักต์วัชยอานนท์ มีนิสัยชอบไม้ป่าเดียวกัน หลังหย่าร้างผู้ตายก็เริ่มคบหากับชายหนุ่มมากหน้าหลายตา เบื้องต้นตำรวจสันนิฐานว่า สาเหตุของการฆ่ากันในครั้งนี้น่าจะมาจากเรื่องของความหึงหวง โดยทั้งสองอาจจะตกลงปัญหาหัวใจกันไม่ได้ จึงคว้ามีดและค้อนมาต่อสู้กันจนเสียชีวิตดังกล่าว
ขนศพหนุ่มเหยื่ออาญาเถื่อนโอเกะฝากนิติเวช
จากกรณี นายสุรินทร์ โพธิ์ทอง อายุ 50 ปี กับนางสมใจ โพธิ์ทอง อายุ 43 ปี สองสามีภรรยา นำศพของ นายดวงเด่น โพธิ์ทอง อายุ 22 ปี ลูกชายซึ่งเป็นพนักงานจดมิเตอร์ไฟฟ้า ที่ถูกเจ้าหน้าที่ รปภ.ร้านแกะดำคาราโอเกะ ย่านถนนสุภาพงศ์ซอย 3 รุมทำร้ายจนเสียชีวิต มาแห่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง เจ้าของท้องที่ทำคดีไม่คืบหน้า พร้อมยืนยันว่าหากทำพิธีสวดพระอภิธรรมที่วัดมหาบุศย์เสร็จ จะเก็บศพผู้ตายไว้จนกว่าตำรวจจะสามารถจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้ทั้งหมด ซึ่งต่อมาทางตำรวจ สน.พระโขนง แจ้งว่าสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้แล้ว 2 คน คือ นายวิเชษ สุขแจ่ม อายุ 33 ปี และนายอรรถพล หรือเหมียว หนุนงาม อายุ 31 ปี เหลือเพียงนายดนัย หรือเดียร์ ทองดี อายุ 25 ปี ที่ยังหลบหนีอยู่อีก 1 คน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.15 น.วันนี้ (27 ต.ค.) นางสมใจ โพธิ์ทอง แม่ของนายดวงเด่น พร้อมญาติๆ ได้นำศพของนายดวงเด่นใส่โลงขึ้นท้ายรถกระบะออกจากวัดมหาบุศย์ ซอยอ่อนนุช 7 มามอบให้ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ทำการเก็บรักษาสภาพศพเอาไว้ จนกว่าจะสามารถจับกุมนายดนัย ทองดี คนร้ายที่เหลืออีก 1 คนมาดำเนินคดีได้ โดยมี พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.ในฐานะเลขาฯ ป.ป.ส. กับ พ.ต.ท.สรยุทธ ปุสสะ ช่างภาพทางการแพทย์ (สบ 3) กลุ่มงานนิติพยาธิสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ มาคอยช่วยอำนวยความสะดวก
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับญาติผู้ตายที่แจ้งขอฝากศพไว้กับทางสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เนื่องจากต้องการรักษาสภาพบาดแผลและศพเอาไว้ให้สมบูรณ์ที่สุดจนกว่าจะสามารถจับกุมคนร้ายที่เหลือได้ ทั้งนี้จากการตรวจสอบเอกสารของแพทย์ผู้ทำการผ่าชันสูตรศพนายดวงเด่น ระบุสาเหตุการตายว่า เกิดจากการถูกของมีคมเข้าที่ลำคอด้านซ้ายทะลุถึงเส้นเลือดใหญ่ สำหรับความคืบหน้าเรื่องคดีทาง บก.น.5 ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาใหม่ 1 ชุด เพื่อคลีคลายคดีนี้โดยเฉพาะ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวผู้เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ทาง ผบก.น.5 ยืนยันว่าจะเร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายที่ยังหลบหนีอยู่ให้ได้อย่างรวดเร็วที่สุด ส่วนคนร้ายที่สามารถจับกุมได้ก่อนหน้านี้ 2 คนนั้น เบื้องต้นทราบว่า ให้การภาคเสธอยู่ แต่ก็ไม่มีผลต่อคดีเพราะมีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานยืนยัน
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวต่อว่า ในส่วนของร้านคาราโอเกะที่เกิดเหตุนั้น ทางเจ้าหน้าที่จะต้องเรียกมาตรวจสอบใบอนุญาตสถานบริการ ซึ่งหากไม่มีใบอนุญาตก็จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ตนได้เสนอไปแล้วว่าหลังเกิดเหตุอุกฉกรรจ์ขึ้นที่ร้านดังกล่าว ก็ควรจะต้องถูกปิดการให้บริการเอาไว้ก่อน เพราะอาจจะทำให้หลักฐานสำคัญทางคดีสูญหายไปได้ ยิ่งถูกร้องเรียนลักษณะนี้ ตำรวจท้องที่ก็ต้องเข้าไปดำเนินการตรวจสอบ หากพบว่าเจ้าของร้านปล่อยปละละเลยให้มีการทำร้ายกันในร้านโดยที่ตัวเองไม่เข้าไปห้ามปราม หรือพอเกิดเหตุแล้วไม่ให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวน ก็เป็นประเด็นที่พนักงานสอบสวนจะสามารถพิจารณาตั้งข้อหาได้เช่นกัน
ด้านนางสมใจ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ยังรู้สึกเสียใจที่ต้องสูญเสียลูกชายไป หลังจากนี้ก็หวังว่าวิญญาณของลูกจะช่วยให้สามารถจับกุมคนร้ายที่เหลือมาให้ได้โดยเร็ว ส่วนเรื่องการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง นั้นตนไม่ทราบ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชา อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนและรอง ผบ.ตร.ที่ความสนใจนำเสนอข่าวและช่วยเหลือครอบครัวของตนด้วย
ขณะที่ พล.ต.ต.กฤษฏิ์ เปียเเก้ว ผบก.น.5 กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีนี้ว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.5 และ ฝ่ายสืบสวน สน.พระโขนง เร่งติดตามจับกุมตัวนายดนัย ที่ยังหลบหนีอยู่มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ซึ่งเชื่อว่าคงไม่ยากเกินความสามารถ ส่วนกรณีที่พ่อกับแม่ พร้อมญาติ นำศพผู้ตายไปแห่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อขอความเป็นธรรมจะต้องดูที่มาที่ไปให้ชัดเจนว่าเรื่องราวเกิดขึ้นอย่างไร ทั้งในฝ่ายของผู้เสียหาย ฝ่ายผู้ต้องหา และฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเรื่องนี้ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สุคุณ พรหมายน รอง ผบก.น.5 กับ พ.ต.อ.ไตรเมต อู่ไทย รอง ผบก.น.5 เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด พร้อมรายงานให้ตนทราบภายในวันจันทร์ที่ 29 ต.ค.นี้ หากสอบสวนพบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจรายใดมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมก็จะพิจารณาลงโทษตามระเบียบ
ส่วน พ.ต.ท.รุ่งชาติ รุ่งทอง รอง ผกก.สส.สน.พระโขนง กล่าวว่า ทราบว่าขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานไปขออนุมัติหมายจับอยู่ อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กระจายกำลังกันไปเฝ้าติดตามจุดต่างๆ ที่คิดว่านายดนัย จะหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ แต่ยังไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียดในส่วนนี้เนื่องจากเกรงว่าคนร้ายจะไหวตัวหลบหนีไปอีก.