ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ 083-792-5426

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured post 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured post 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured post 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured post 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามตำแหง บางกะปิ 083-792-5426

วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ศาลสั่งจำคุกสาวซีวิค 3 ปี



ที่ห้องพิจารณา 5 ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง สนามหลวง  เมื่อเวลา 9.30 น.วันนี้ (31 ส.ค.) ศาลอ่านคำพิพากษาคดีประมาทหมายเลขคดี 1233/2554 ที่อัยการฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 1 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องน.ส.แพรวพราว ( นามสมมุติ) อายุ 18 ปี เป็นจำเลย ในความผิดฐานขับรถยนต์โดยประมาท จนเป็นเหตุในผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับอันตรายต่อร่างกายบาดเจ็บสาหัส และทรัพย์สินเสียหาย และใช้โทรศัพท์ขณะขับรถยนต์ ต่อศาลเยาวชน ฯ เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.54 โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.53 เวลากลางคืน จำเลยซึ่งเป็นเยาวชนอายุ 17 ปี ขับรถยนต์ยฮอนด้า ซีวิค หมายเลขทะเบียน ฎว-8461 กรุงเทพมหานคร ขึ้นบนทางยกระดับโทลล์เวย์ ขาเข้ามุ่งหน้า ถ.ดินแดงด้วยความเร็วสูงเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ซึ่งจำเลยได้กระทำประมาทโดยปราศจากความระมัดระวัง  ซึ่งบุคคลในภาวะปกติจะต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์และจำเลยอาจใช้ความระมัดระวังเช่นนั้นได้แต่หาได้ใช้เพียงพอไม่ โดยจำเลยไม่ขับรถในช่องทางซ้าย เมื่อมาถึงบริเวณแยกทางลงบางเขน ช่วงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เปลี่ยนช่องทางไปมา เปลี่ยนช่องทางจากช่องทางขวาสุดเพื่อมาทางซ้ายถัดมา และยังเปลี่ยนกลับไปยังช่องทางขวาอีกครั้ง เป็นเหตุให้รถยนต์ซีวิคของจำเลยพุ่งเข้าชนรถยนต์ตู้โดยสารทะเบียน 13-7795 กรุงเทพ ที่วิ่งระหว่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งมีนางนฤมล ปิตาทานัง อายุ 38 ปี เป็นคนขับทำให้รถยนต์ตู้เสียหลักหมุนไปชนขอบกั้นทางโทลล์เวย์ พลิกคว่ำพังเสียหาย คนขับรถตู้โดยสารและผู้โดยสารภายในรถยนต์ตู้กระเด็นออกจากตัวตกจากทางด่วนเสียชีวิตรวม 9 คน และบาดเจ็บสาหัสจำนวนหนึ่ง ส่วนรถยนต์ของจำเลยแฉลบเลยจากรถยนต์ตู้ประมาณ 50 เมตร นอกจากนี้ก่อนเกิดเหตุจำเลยยังได้ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถยนต์ โดยมีหลักฐานเป็นรายงานการใช้โทรศัพท์มือถือของจำเลย ชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธทั้ง 2 ข้อหา

                
ภายหลังการอ่านคำพิพากษานานกว่า 2 ชั่วโมง นางยุวดี เยี่ยงยุกด์สากล อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าฝ่ายโจทก์มีประจักษ์พยานที่เป็นผู้เสียหายโดยสารมากับรถตู้ และพยานปากเป็นพนักงานขับรถยกของดอนเมืองโทลลเวย์ที่ขับรถตามมาก่อนเกิดเหตุ ภาพวงจรปิดบนทางด่วน และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์แล้วเห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง ศาลจึงพิพากษาลงโทษจำคุกน.ส.แพรวพราว จำเลยในความผิดฐานขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและทำให้ทรัพย์สินเสียหายเป็นเวลา 3 ปี  คำให้การในชั้นพิจารณาเป็นประโยชน์ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกเป็นเวลา 2 ปี โทษจำคุกให้รอลงอาญาเป็นเวลา 3 ปี คุมประพฤติจำเลย 3 ปี และให้รายงานตัวทุกๆ 3 เดือน ให้ทำงานบริการสังคมโดยการดูแลผู้ป่วยจากอุบัติเหตุเป็นเวลา 48 ชั่วโมง และห้ามจำเลยขับรถยนต์จนกว่าจะมีอายุครบ 25 ปีบริบูรณ์ ส่วนความผิดฐานใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ศาลพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากไม่สามารถนำสืบได้ว่าจำเลยใช้โทรศัพท์จริงหรือไม่ เพราะอยู่ในรถ
                
นางยุวดี กล่าวอีกว่า ส่วนจะยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลวินิจฉัยไม่รอลงอาญาจำเลย รวมทั้งข้อหาใช้โทรศัพท์ขณะขับรถหรือไม่ จะต้องขอคัดคำพิพากษาเพื่อไปปรึกษากับอธิบดีอัยการฝ่ายคดีเยาวชนฯ ก่อน แต่ตามข้อกฎหมายมีหลักห้ามอุทธรณ์ในข้อหาใช้โทรศัพท์ เพราะมีแค่โทษปรับเท่านั้น ยกเว้นจะได้รับการรับรอง ถ้าหากโจทก์ร่วมต้องการจะยื่นอุทธรณ์คดีก็สามารถทำได้ทันทีภายในระยะเวลา 1 เดือน และสามารถขอขยายระยะเวลาได้อีกตามที่กฎหมายกำหนด
              
"คดีนี้ศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้อง ซึ่งเป็นธรรมชาติของคดีเยาวชนที่มุ่งเน้นแก้ไข บำบัด ฟื้นฟูเยาวชน"  นางยุวดี กล่าว
                
พ.ต.อ.ศรัญ นิลวรรณ บิดาของน.ส.สุดาวดี นิลวรรณ นักศึกษา คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามคำฟ้องในความผิดฐานประมาท แต่ให้การลดโทษและคุมประพฤติ พร้อมทั้งห้ามขับรถ ซึ่งเท่าที่ได้หารือกับญาติผู้เสียหายส่วนใหญ่รู้สึกพอใจ แม้ศาลจะให้รอลงอาญาก็ตาม โดยไม่ติดใจการลงโทษ เพราะกฎหมายเยาวชนเน้นให้โอกาสเยาวชนแก้ไขกลับเนื้อกลับตัว และการฟ้องคดีนี้เพื่อต้องการให้ศาลชี้ว่าใครผิดใครถูก จึงต้องขอขอบคุณญาติผู้เสียทุกคน เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ฝ่ายพิสูจน์หลักฐานที่รวบรวมหลักฐานไว้ละเอียดครบถ้วน พยานทุกปากโดยเฉพาะคนขับรถดอนเมืองโทลล์เวย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และศาลที่พิพากษาตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคดีนี้ฝ่ายจำเลยจะต้องขอยื่นอุทธรณ์ โดยโจทก์เองก็จะปรึกษาหารือกันต่อไป
              
ด้านนางถวิล เช้าเที่ยง อายุ 64 ปี มารดาของนายศาสตรา เช้าเที่ยง หรือดร.เป็ด  กล่าวว่า พอใจผลคำพิพากษา ส่วนตัวต้องการยื่นอุทธรณ์ แต่ต้องปรึกษาทนายความอีกครั้งว่าจะยื่นอุทธรณ์หรือจะดำเนินคดีทางแพ่งหรือไม่อย่างไร โดยหลังจากนี้จะกลับไปบอกลูกชายว่าศาลพิพากษาลงโทษและได้ภาคทัณฑ์จำเลยแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกเสียใจและเสียดายที่ลูกชายอุตสาห์ใช้เวลาหลายปีร่ำเรียนอย่างหนักจนจบมา แต่ก็ยังไม่ได้มีโอกาสหาความสุขแต่งงานมีครอบครัวก็ต้องมาถูกแม่คุณคนนี้ขับรถชนตาย
ขณะที่นางทองพูน พานทอง อายุ 57 ปี มารดาของนางสาวนฤมล คนขับรถตู้ กล่าวว่า ผลคำพิพากษาของศาลในวันนี้ ทำให้ตนรู้สึกดีขึ้นที่จะไม่มีใครกล่าวหาว่าลูกสาวตนเป็นคนผิดและสังคมจะได้รู้ว่าลูกตนไม่ได้ทำผิด              
              
ส่วนน.พ.กฤช รอดอารีย์ บิดานายเกียรติมันต์ รอดอารีย์ บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่มีคำพิพากษาในวันนี้ เพราะรอคอยกันมานาน ส่วนญาติทุกคนจะอุทธรณ์ในข้อหาใช้โทรศัพท์ขณะขับรถหรือไม่ต้องรอปรึกษากับทีมทนายก่อน ทั้งนี้ ส่วนตัวเห็นว่าบทลงโทษของศาลกรณีนี้จะเป็นบรรทัดฐานให้กับคดีอื่นได้
                
นางกษมน มั่นศิลป์ มารดานายเกียรติมันต์ กล่าวว่า หลังจากนี้เป็นหน้าที่ของจำเลยที่ต้องมารายงานตัวต่อศาลต่อศาลทุก 3 เดือน ต่อเจ้าพนักงานคุมประพฤติ ซึ่งจะทำหน้าที่ตรวจสอบว่าจำเลยได้ทำการฝ่าฝืนคำสั่งศาลหรือไม่ทั้งเรื่องการห้ามเที่ยวกลางคืน ห้ามเสพยาเสพติด และทำงานบริการสังคม 48 ชั่วโมงภายในเวลา 2 ปี และให้กลับไปศึกษาโดยต้องนำผลการเรียนพร้อมผลการตรวจปัสสาวะส่งเจ้าพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือน ซึ่งฝ่ายโจทก์ร่วมคงไม่ไปติดตามตรวจสอบว่าจำเลยจะปฏิบัติตนผิดเงื่อนไขศาลหรือไม่ แต่ถ้ามีผู้ใดพบเห็นว่าจำเลยแอบไปเที่ยวกลางคืนหรือไปขับรถก็สามารถถ่ายรูปนำหลักฐานมาส่งศาลให้พิจารณาลงโทษได้
                  
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ญาติผู้หายเดินทางมาศาลทุกคน โดยในช่วงเช้าก่อนเข้าฟังคำพิพากษาญาติผู้เสียหายเดินทางไปสักการะศาลหลักเมืองเพื่อขอพรให้คดีจบสิ้นโดยเร็ว ส่วนน.ส.แพรวพราวเดินทางมาพร้อมบิดา-มารดาและทนายความและเข้าห้องพิจารณาทันที ซึ่งภายหลังการฟังคำพิพากษาน.ส.แพรวพราวและครอบครัวเดินออกจากห้องพิจารณาด้วยสีหน้าที่แสดงอาการโล่งใจ
                 
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า  ก่อนหน้านี้คดีนี้ศาล เคยนัดฟังคำพิพากษามาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.55 แต่ศาลได้มีข้อเสนอแนะให้คู่ความทั้งสองฝ่าย ได้ร่วมประชุมกลุ่มสหวิชาชีพ เพื่อให้ครอบครัวผู้เสียหาย นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ ร่วมกันประเมินและหารือเพื่อวางแผนการเยียวยา และบำบัดฟื้นฟูเด็กและเยาวชนที่ศูนย์ให้คำปรึกษาแนะนำและประสานการประชุมเพื่อแก้ไขบำบัดฟื้นฟูเด็ก เยาวชนและครอบครัว ตามพ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง และวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัวกลาง พ.ศ.2553 มาตรา132 ซึ่งต่อมาได้มีการนัดประชุมกลุ่มครอบครับเรื่อยมาตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. จนกระทั่งวันที่ 30 ก.ค. กลุ่มครอบครัวผู้เสียหาย ได้ประชุมร่วมกับจำเลยและทนายความ ซึ่งได้มีการกล่าวขออภัยกัน โดยฝ่ายญาติผู้เสียหายยังยืนยันที่จะให้ศาลมีคำพิพากษาคดี  ทั้งนี้  ญาติผู้เสียหายยังได้ฟ้องคดีแพ่งฐานละเมิดเรียกค่าเสียหาย 120 ล้านบาท โดยขณะนี้ศาลแพ่งให้จำหน่ายคดีไว้ชั่วคราวจนกว่าศาลเยาวชนฯ จะมีคำพิพากษา.

กรมสรรพสามิตเผยขึ้นภาษีสุรา-ยาสูบ เก็บรายได้เพิ่ม 13,000 ล้านบาท


เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (22 ส.ค.) กลุ่มเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมด้วยเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ และเครือข่ายเฝ้าระวังแอลกอฮอล์กรุงเทพ มูลนิธิเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา จำนวนกว่า 30 คน เข้าพบ นางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมสรรพสามิต เพื่อสนับสนุนนโยบายที่กระทรวงการคลังเสนอให้คณะรัฐมนตรีปรับขึ้นภาษี เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยให้มีผลบังคับใช้ทันที

โดยนายจะเด็จ เชาว์วิไล ที่ปรึกษาเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เปิดเผยว่า เครือข่ายต้องการสนับสนุนนโยบายของกรมสรรพสามติดังกล่าว เพราะมาตรการราคาที่เพิ่มขึ้นจะช่วยลดแรงจูงใจในการเข้าถึงแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะเยาวชนและผู้มีรายได้น้อย อีกทั้งยังส่งผลดีต่อสุขภาพ ลดการบาดเจ็บ พิการ และเสียชีวิต ที่มีสาเหตุมาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และทำให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้น

ด้าน นางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ทำให้สรรพสามิตยาสูบปรับเพิ่มค่าแสตมป์ ยาเส้น ยาสูบ และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประเภทต่างๆ มีผลทำให้ราคาขายปลีกยาสูบปรับเพิ่มขึ้นซองละ 3-14 บาท นอกจากนี้ได้ปรับภาษีสุรากลั่น ชนิดสุราขาว จากเดิมลิตรละ 120 บาทต่อฤทธิ์แอลกอฮอล์ เป็น 150 บาท ชนิดสุราผสม จากเดิม 300 บาท เป็น 350 บาท และชนิดสุราพิเศษ ประเภทบรั่นดี ปรับเพิ่มตามมูลค่าจาก 48 เป็น 50 รวมถึงค่าธรรมเนียมให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน รวมทั้งสนับสนุนมาตรการควบคุมการบริโภคของประชาชนด้วย

ทั้งนี้ จะทำให้กรมสรรพสามิตมีรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 13,000 ล้านบาท มาจากยาสูบ 10,000 บาท สุรา 3,000 ล้านบาท ในส่วนเบียร์และไวน์นั้น ได้ปรับภาษีเต็มเพดานไปแล้ว กำลังศึกษาว่าจะขยายเพดานอีกหรือไม่ โดยหากต้องขยายเพดานต้องแก้กฎหมายก่อน ต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลขึ้นภาษีเพื่อนำเงินไปชดเชย โครงการประชานิยมนั้น ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพราะค่าธรรมเนียมดังกล่าวไม่ได้ปรับขึ้นมากว่า 34 ปีแล้ว เป็นเพียงการปรับตามสภาวะเศรษฐกิจ.


ฟินแลนด์ทำเหรียญที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติในหลวง







พระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ โดยใช้แนวคิดในการผลิตเหรียญที่ระลึกให้มีขนาดใหญ่ที่สุดเพื่อ “ความเป็นหนึ่งเดียวในโลก” นำขึ้นทูลเกล้าถวายแด่พระองค์ท่าน ส่วนรายได้หลังจากนำหน่ายเหรียญหักค่าใช้จ่าย ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเสด็จพระราชกุศล ตามพระราชอัธยาศัย
เหรียญเงิน ใช้วัสดุเหรียญเงินสเตอร์ลิง (เงินแท้ 92.5% และทองแดง 7.5%) น้ำหนัก 1 กิโลกรัม เส้นผ่าศูนย์กลาง 10 ซม.
เหรียญทอง ใช้วัสดุเหรียญเงินสเตอร์ลิง เคลือบทองคำแท้หนา 0.2 ไมครอน น้ำหนัก 1 กิโลกรัม เส้นผ่าศูนย์กลาง 10 ซม.
นายโจปี ฮัคคาเนน ผู้จัดการฝ่ายเทคโนโลยีของโรงกษาปณ์แห่งประเทศฟินแลนด์กล่าวว่า “งานชนิดนี้ต้องอาศัยผู้มีทักษะในการใช้แกะลวดลายที่เป็นเลิศ รวมถึงความระมัดระวังอย่างสูง เพื่อความเป็นเลิศของชิ้นงาน”
โดยเหรียญขนาดใหญ่นี้ แสดงให้เห็นถึงลวดลายการแกะสลักบนเหรียญอย่างชัดเจนเป็นพิเศษ สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดปลีกย่อยของการตีตราเหรียญที่ระลึก นอกจากเทคโนโลยี การตีตราด้วยวิธีกดอัดด้วยระบบไฮดรอลิกที่มีน้ำหนักสูงถึง 1,250 ตัน แล้ว แม่พิมพ์ของแต่ละเหรียญ ล้วนแต่ผ่านงานฝีมือที่ต้องอาศัยความชำนาญจากช่างแกะสลักผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งได้สั่งสมประสบการณ์ และการเรียนรู้มาอย่างยาวนาน
สำหรับการจัดสร้างเหรียญที่ระลึกทรงพระเจริญยิ่งยืนนานนี้  มีวัตถุประสงค์เพื่อรวมใจพสกนิกร ชาวไทยเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ และนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเสด็จพระราชกุศล ตามพระราชอัธยาศัย
 
โครงการฯ นี้ โรงกษาปณ์แห่งประเทศฟินแลนด์ได้รับเกียรติ จาก หม่อมหลวง จิราธร จิรประวัติ  ในการออกแบบพระบรมสาทิสลักษณ์ลายเส้น ภายใต้แนวคิด “Circle of life” เนื่องด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว    เป็นศูนย์รวมจิตใจของพสกนิกรชาวไทย พระบารมี และ พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ทำให้วงจรชีวิตของปวงชนชาวไทยมีความสมบูรณ์ในทุกด้าน  โดยสื่อความหมายผ่านเหรียญที่ระลึกทั้ง 3 แบบ และมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
 
เหรียญผลิดอก วัสดุ โลหะผสม ขนาด เส้นผ่าศูนย์กลาง 27.25 มม. น้ำหนัก 27.25 กรับ บรรจุใน แคปซูลคุณภาพดีและบรรจุภัณฑ์เรียบโก้ (ราคา 399 บาท)
ด้านหน้า พระบรมสาทิศลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมข้อความ “H.M. KING BHUMIBOL ADULYADEJ’S 84TH BIRTHDAY ANNIVERSARY”
ด้านหลัง ภาพลายเส้นรูปดอกไม้ผลิดอก สื่อถึงการเริ่มต้นอย่างสวยงามของปวงชน ชาวไทยทุกคน ภายใต้          พระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมข้อความ “LONG LIVE THE KING OF THAILAND”

เหรียญออกผล วัสดุ เงินแท้ขัดเงา ลงสีชมพู ขนาด เส้นผ่าศูนย์กลาง 22 มม. น้ำหนัก 8.4 กรัม บรรจุในกล่องสวยหรู (ราคา 2,499 บาท)
ด้านหน้า พระบรมสาทิศลักษณ์ พระบาทสมเด็จประเจ้าอยู่หัว พร้อมข้อความ “H.M. KING BHUMIBOL ADULYADEJ’S 84TH BIRTHDAY ANNIVERSARY” พร้อมลงสีชมพูด้านหลัง ภาพลายเส้นรูปต้นไม้ออกผล สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนแผ่นดินไทย ภายใต้พระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมข้อความ “LONG LIVE THE KING OF THAILAND”
 
เหรียญร่มเย็น วัสดุ ทองคำแท้เคลือบบนโลหะผสม ขนาด เส้นผ่าศูนย์กลาง 27.25 มม. น้ำหนัก 10 กรัม บรรจุในกล่องสวยหรู  (ราคา 2,499 บาท)
ด้านหน้า พระบรมสาทิศลักษณ์ พระบาทสมเด็จประเจ้าอยู่หัว พร้อมข้อความ “H.M. KING BHUMIBOL ADULYADEJ’S 84TH BIRTHDAY ANNIVERSARY”
ด้านหลัง ภาพลายเส้นรูปต้นไม้ใหญ่ ผลิดอก ออกผล สื่อถึงความร่มเย็นเป็นสุข ของพสกนิกรชาวไทย ภายใต้      พระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมข้อความ “LONG LIVE THE KING OF THAILAND”
 
ชุดเหรียญ Circle of Life
เหรียญผลิดอก เหรียญออกผล และเหรียญร่มเย็น
1 ชุดประกอบด้วย 3 เหรียญ เหรียญทองคำแท้เคลือบบนโลหะผสม  เหรียญเงินแท้ขัดเงาลงสีชมพู และเหรียญโลหะผสม
บรรจุในกล่องสวยหรู ควรค่าแก่การเก็บสะสม มอบเป็นของที่ระลึกแด่คนสำคัญ หรือจัดทำเป็นเครื่องประดับ (ราคาชุดละ 4,999 บาท)

สสปน.ลุยดึงเวียดนามร่วมงานแสดงสินค้าในไทย


วันนี้ (30 ส.ค.) นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายงานแสดงสินค้านานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) เปิดเผยว่า สสปน. มีแผนเจาะตลาดดึงผู้ซื้อและผู้ขายชาวเวียดนามมาออกร้านและร่วมงานแสดงสินค้าในไทยมากขึ้น โดยเน้นเจาะกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตร อาหารเป็นหลัก โดยได้ไปจับมือกับสำนักงานส่งเสริมการค้าเวียดนาม (เวียดเทรด) ลงนามในความร่วมมือระหว่างกัน ในส่วนของ สสปน. จะช่วยให้ความรู้ผู้ประกอบการเวียดนามในการใช้ช่องทางร่วมงานแสดงสินค้าขยายตลาด ขณะที่ทางเวียดเทรดจะช่วยประชาสัมพันธ์ปฏิทินการจัดงานแสดงสินค้าของไทยให้ผู้ประกอบการเวียดนามทราบ

“จากสถิติผู้ร่วมงานแสดงสินค้าในไทย เมื่อปี 51-52 ผู้ร่วมงานจากเวียดนามยังติดอันดับ 1 ใน 5 ของตลาดที่มาไทยมากที่สุด แต่หลังจากนั้นยอดผู้ร่วมงานเวียดนามตกลงไป เพราะเวียดนามมีปัญหาเศรษฐกิจ ประกอบกับในประเทศจัดงานแสดงสินค้ามากขึ้น ดังนั้นสสปน. จึงต้องกลับมากระตุ้นตลาดนี้ให้กลับมาไทย โดยเน้นเจาะตลาดรายอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตามมองว่า เวียดนามยังไม่ใช่คู่แข่งที่น่ากลัวของไทยด้านการเป็นศูนย์กลางแสดงสินค้านานาชาติในอาเซียน เพราะงานแสดงสินค้าที่จัดในเวียดนาม แม้จะมีมากกว่า 800 งาน เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวจาก 5 ปีก่อน แต่งานส่วนใหญ่ยังเป็นงานระดับในประเทศเท่านั้น มีงานนานาชาติเพียงแค่ 70 งาน”


มือปืนยิงลูกส.ส.ชาดามอบตัวสารภาพสิ้น


จากกรณีนายฟารุต ไทยเศรษฐ อายุ 28 ปี ลูกชายนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา ถูกยิงเสียชีวิต ขณะขับรถโตโยต้า แลนด์ครุยเซอร์ สีดำ ทะเบียนป้ายแดง อ 5726 กรุงเทพมหานคร เหตุเกิดที่ถนนสายเขาใหญ่-วังน้ำเขียว ท้องที่ สภ.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น เกี่ยวกับความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว ล่าสุดเมื่อเวลา 20.00 น. วันนี้(30ส.ค.) พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.ภ.3 ได้รับการประสานจากชายที่อ้างตัวว่าเป็นมือปืนยิงนายฟารุต ว่าจะขอเข้ามอบตัว โดยนัดหมายให้มารับตัวในพื้นที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
 
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ดินทางไปรับตัวทราบชื่อ นายมั่น พูลทรัพย์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 หมู่ 6 ต.ปากท่อ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ก่อนจะพาตัวมาสอบสวนที่เซฟเฮ้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่คุ้มกันอย่างแน่นหนา
ทั้งนี้ นายมั่นรับสารภาพว่า ปัจจุบันทำงานเป็นคนคุมงานก่อสร้างอยู่ภายในสนามกอล์ฟแห่งหนึ่งใกล้ที่เกิดเหตุ ในวันเกิดเหตุได้ขับรถปิกอัพโตโยต้า วีโก้  มาเพียงลำพัง และชอบเปิดเพลงเสียงดัง ก่อนเกิดเหตุรถยนต์ของนายฟารุต ขับมาและสาดไฟสูงใส่จึงขับหลบให้แซงขึ้นไป จากนั้นก็ขับแซงกันไปมาและเปิดไฟสูงใส่เช่นกัน  จากนั้นคนที่นั่งด้านซ้ายได้ลดกระจกลงแล้วยิงปืนใส่ตนก่อนหลายนัด ด้วยความตกใจจึงใช้อาวุธปืนพกยิงตอบโต้ไป 3 -4 นัด
นายมั่น กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุได้นำรถไปเติมน้ำมันที่ปั้มแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง ก่อนจะนำรถไปซ่อมที่อู่แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ โดยพบว่าตัวรถถูกยิงทั้งหมด 6 นัด เมื่อซ่อมเสร็จก็ย้อนกลับมาทำงานตามปกติ ส่วนอะไหล่ที่เปลี่ยนก็ยังเก็บไว้ สาเหตุที่ตัดสินใจเข้ามอบตัวกับตำรวจเพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ยืนยันว่าเป็นการป้องกันตัวเองไม่ได้มีการวางแผนมาก่อนแต่อย่างใดและขณะเกิดเหตุมีตนเพียงคนเดียวเท่านั้น


Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More

 
Design Downloaded from Free Blogger Templates Download | free website templates downloads | Vector Graphics | Web Design Resources Download.