ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ 083-792-5426

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured post 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured post 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured post 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured post 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามตำแหง บางกะปิ 083-792-5426

วันพฤหัสบดีที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2555

นักแสดงหนุ่มคนดังเข้ามอบตัวคดีทำร้ายบาร์เทนเดอร์หญิง



วันนี้ (2 ส.ค.)สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า “คิวบา กู้ดดิ้ง จูเนียร์” นักแสดงหนุ่มชาวอเมริกัน วัย 44 ปี เจ้าของรางวัลออสการ์ ได้ขอเข้ามอบตัวกับตำรวจในเมืองนิวออร์ลีนส์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพื่อรับทราบข้อหาทำร้ายร่างกาย หลังจากที่เขาถูกกล่าวหาผลักบาร์เทนเดอร์หญิง ระหว่างเกิดเหตุวิวาท
 
น.ส.ฮิลลัล วิลเลียมส์ โฆษกหญิงของสถานีตำรวจเมืองนิวออร์ลีนส์ เปิดเผยว่า “คิวบา กู้ดดิ้ง จูเนียร์” ได้เข้ามาพบกับเจ้าพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเมื่อเช้าวันพุธที่ผ่านมา ตามหมายเรียกในข้อหาทำร้ายร่างกาย ทำให้คดีนี้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล”
 
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของนักแสดงเจ้าบทบาท เปิดเผยด้วยว่า “คิวบา กู้ดดิ้ง จูเนียร์” พยายามที่จะแก้ไขเรื่องนี้โดยเร็วโดยเกิดความเข้าใจผิดเป็นสำคัญ
ส่วนคำบอกเล่าของบาร์เทนเดอร์หญิงผู้เสียหาย ระบุว่า “คิวบา กู้ดดิ้ง จูเนียร์” มาที่บาร์บนถนนเบอร์เบินพร้อมกับพวก เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.ของเช้าวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งก็มีลูกค้าในร้านต่างก็จำได้ว่า เขาเป็นนักแสดงเจ้าบทบาทจากภาพยนตร์เรื่อง Jerry Maguire และเริ่มขอถ่ายรูปกับเขา แต่เขากลับเริ่มไม่ค่อยพอใจที่มีคนมาขอถ่ายรูปกันมาก
 
บาร์เทนเดอร์หญิงผู้นี้จึงเข้าไปพูดคุยด้วย และพยายามขอร้องให้ครบสงบสติอารมณ์ แต่เมื่อถึงจุดนี้ เขากลับผลักตัวเธอออกไปด้วยมือเปล่า เพื่อนร่วมงานจึงรีบโทรแจ้งตำรวจ และเธอก็บอกกับเขาอีกครั้งว่า ให้กลับไปเสีย
 
“คิวบา กู้ดดิ้ง จูเนียร์” ได้รับรางวัลตุ๊กตาทองออสการ์ในฐานะดาราสมทบชายยอดเยี่ยมเมื่อปี 2539 จากภาพยนตร์เรื่อง Jerry Maguire นอกจากนั้นก็ยังแสดงอีกหลายเรื่องเช่น Pearl Harbor, A Few Good Man และ Gladiator เป็นต้น

หุ้นไทยภาคเช้าปิดบวก 9.24จุด



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้(27ก.ค) ดัชนีสามารถฟื้นตัวได้ทันทีที่เปิดตลาด (รีบาวน์)ตามตลาดหุ้นต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น หลังประธานธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี)ออกมาให้คำมั่นสัญญาเกี่ยวกับการปกป้องค่าเงินสกุลยูโรเข้าแทรกแซงตลาดพันธบัตรส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรสเปนกับอิตาลีที่เคยพุ่งไประดับวิกฤติอ่อนตัวลงมา 2 วันติดต่อกัน เป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้หุ้นไทยปิดตลาดภาคเช้าที่     1,182.16 จุด เพิ่มขึ้น 9.24จุด หรือ 0.79% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 11,685.19ล้านบาท

หุ้นไทยภาคเช้าปิดบวก 6.85 จุด



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ (30 ก.ค.) ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นทันทีที่เปิดตลาด จากนั้นก็ยืนในแดนบวกได้ตลอดการซื้อขาย ตามแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่กลุ่มพลังงานและธนาคารพาณิชย์ รวมทั้งเคลื่อนไหวตามตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังเชิงบวกเรื่องผลประชุมของธนาคารกลางในยุโรป (อีซีบี) และธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) โดยเฉพาะการประชุมอีซีบีที่คาดว่าจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ส่งผลหุ้นไทยปิดตลาดภาคเช้าที่ 1,184.86 จุด เพิ่มขึ้น 6.85 จุด หรือ 0.58% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7,646.20 ล้านบาท

ครม.ไฟเขียวขยายเวลารับมอบรถยนต์คันแรก



วันนี้ ( 30 ก.ค.) นางสาวศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. สัญจร ที่จังหวัดสุรินทร์ ได้เห็นชอบการขยายเวลาการรับส่งมอบรถยนต์และเอกสารหลักฐานของราชการออกไป สำหรับโครงการรถยนต์ใหม่คันแรกโดยให้ผ่อนผันการส่งมอบรถยนต์ใหม่ในโครงการออกไปอย่างไม่มีกำหนด แต่ผู้ที่จะขอใช้สิทธิฯ ต้องทำการซื้อหรือจองรถยนต์ภายในวันที่ 31 ธ.ค.55 และต้องยื่นคำขอใช้สิทธิฯ และเอกสารประกอบการใช้สิทธิฯ ภายในวันที่ 31 ธ.ค.55 หรือภายในระยะเวลา 90 วันนับจากวันรับมอบรถยนต์ ที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สาขา
 
สำหรับเอกสารที่ต้องนำมายื่น คือ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาหนังสือสัญญาเช่าซื้อ (ถ้ามี) สำเนาบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ขอใช้สิทธิฯ ใบจองรถยนต์ ตั้งแต่วันที่ครม.มีมติถึงวันที่ 31 ธ.ค.55 และเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมที่ต้องนำมายื่นหลังจากได้รับส่งมอบรถแล้วภายใน 90 วัน ได้แก่ หนังสือสัญญายินยอมสละสิทธิ์การโอนรถยนต์ใหม่คันแรก สำเนาหลักฐานการซื้อขายรถยนต์ สำเนาใบเสร็จรับเงินหรือสำเนาสัญญาซื้อขาย สำเนาเอกสารการรับมอบรถยนต์ สำเนาคู่มือจดทะเบียน โดยหากผู้ขอใช้สิทธิฯ ไม่ดำเนินการตามนำเอกสาร มายื่น ณ สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่หรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สาขาภายในระยะเวลาที่ กำหนด ให้ถือว่าผู้ขอใช้สิทธิฯ ไม่ประสงค์จะขอรับเงินคืนตามโครงการรถยนต์ใหม่คันแรกและจะเรียกร้องสิทธิฯ และค่าเสียหายใด ๆ กับทางราชการไม่ได้

หุ้นไทยปิดบวก 1.83 จุด



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันที่ 1 ส.ค. ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวนกรอบแคบ ทั้งในแดนบวกและลบ ตามแรงซื้อสลับแรงขายทำกำไร แต่สามารถกลับมายืนเหนือ 1,200 จุดได้อีกครั้ง โดยระหว่างวันดัชนีทะยานขึ้นสูงสุดที่1,202.00 จุด ลดลงต่ำสุดที่ 1,194.26 จุด  จนมาปิดตลาดที่ 1,201.13 จุด เพิ่มขึ้น 1.83 จุด หรือ 0.15 % ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 24,530.15  ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ปิดที่ 307.96 จุด เพิ่มขึ้น 2.14 จุด หรือ 0.70 % มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 1,009.04 ล้านบาท
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก
1. ปตท. ปิดที่ 322.00 บาท  ลดลง 4.00 บาท
2.  ธ.กรุงไทย ปิดที่ 17.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท
3. ธ.กรุงเทพ ปิดที่ 198.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
4. ธ.กสิกรไทย ปิดที่ 175.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
5. เอไอเอส ปิดที่ 201.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส ประเทศไทย มองว่าดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบ หลังนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงรอผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เรื่องมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการแก้ไขปัญหาวิกฤตหนี้ในยูโรโซน
ส่วนแนวโน้มวันที่ 3 ส.ค.นี้   มองว่า นักลงทุนยังต้องรอความคาดหวังจากปัจจัยต่างประเทศต่อไป โดยหากมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางยุโรปออกมา จะเพิ่มความมั่นใจแก่นักลงทุนมากขึ้น โดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,190 จุด  และแนวต้านที่ 1,220  จุด  ด้านกลยุทธ์แนะนำ ในกรณีที่มีหุ้นอยู่แล้วให้ถือต่อ และควรทยอยลงทุนเมื่อดัชนีลดลงแตะระดับที่ 1,190 จุด.

ขยายเวลารถคันแรกรับจองไม่อั้น คาดสิ้นปีเกิน 5 แสนคัน



วันนี้( 1 ส.ค.) นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การขยายเวลารับมอบรถยนต์ และยื่นเอกสารหลักฐานตามโครงการคืนภาษีรถยนต์คันแรก ออกไปอีก 90 วันหลังรับมอบรถนั้น เพื่อชดเชยกับระยะเวลาที่โรงงานผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์หยุดดำเนินการ เพราะประสบอุทกภัยปลายปีก่อน และเพื่อไม่ให้ประชาชนเสียสิทธิได้รับเงินคืนภาษี เนื่องจากได้รับการส่งมอบรถล้าช้าจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์
ทั้งนี้ ยื่นยันว่าไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้ค่ายรถยนต์แต่อย่างใด  และยอมรับว่าการขยายเวลาดังกล่าวอาจส่งผลให้ยอดซื้อรถคันแรกที่เข้าโครงการพุ่งทะลุเกินกว่า 5 แสนคัน รวมทั้งรัฐบาลต้องคืนภาษีมากกว่า 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งสิ้นปีที่นับจากยอดใบจองน่าจะได้ตัวเลขที่ชัดเจน
อย่างไรก็ตามแม้โครงการจะเปิดกว้างมากขึ้น และไม่กำหนดจำนวนคันจำนวนเงินที่คืนภาษี แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบรายได้ของรัฐมากนัก เพราะเป็นการทยอยคืนภาษีในปีถัดไปหลังจากครอบครอง 1 ปี อีกทั้งถือเป็นกระบวนการเตรียมพร้อมรองรับการเปิดรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีในปี 2558 ซึ่งบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ต้องเร่งผลิตมากขึ้นเพื่อขายในตลาดที่ใหญ่ขึ้นอยู่แล้ว
ด้านนางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ขณะนี้มียอดจองซื้อรถยนต์ใหม่ 4 แสนคันและส่องมอบ พร้อมทั้งยื่นขอคืนภาษีแล้ว 1.2 แสนคัน เป็นเงิน 8 พันล้านบาท โดยมีอัตราเพิ่มขึ้น 25%ในแต่ละเดือน คาดว่าสิ้นปีนี้ อาจส่งมอบรถยนต์ได้ถึง 2 แสนคัน และจากที่ประเมินพบว่าการส่งมอบรถยนต์อาจล่าช้าไปถึงปีหน้า 6-9 เดือนหรือไม่เกิน 1 ปี นับจากวันที่จอง ซึ่งยังถือว่าเข้าข่ายได้รับสิทธิ จากที่ต้องยื่นมาขอใช้สิทธิก่อนในช่วงสิ้นปี
นอกจากนี้ ได้เปิดกว้างให้รถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่ผลิตออกมาในช่วงนี้ถึงสิ้นปีได้รับสิทธิ์ด้วย แต่ต้องยื่นเรื่องมาที่กรมฯ เพื่อตรวจสอบก่อน ส่วนการตรวจสอบผู้ได้รับสิทธิคืนเงินนั้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้ระบบที่เชื่อมโยงกับกรมขนส่งทางบกจะเริ่มตรวจสอบได้จริง และเดือนกันยายนนี้อาจจะเริ่มมีผู้ได้รับสิทธิคืนเงิน 300 ราย


"แก้ว"ไล่ยำมวยแอลจีเรียลิ่วรอบ2อลป.



การแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น รุ่น 49 กก.ชาย รอบแรก โอลิมปิก "ลอนดอนเกมส์" 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันอังคารที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมา แก้ว พงษ์ประยูร ขุนพลเสื้อกล้ามไทย วัย 32 ปี จากจังหวัดกำแพงเพชร ขึ้นเวทีดวลกำปั้นกับ มูฮาเหม็ด ฟลิสซี นักชกจากแอลจีเรีย วัย 22 ปี
ยกแรก แก้ว ที่เสียเปรียบช่วงชกสั้นกว่า ยังชกได้ไม่เข้าฟอร์ม เนื่องจากมีอาการเกร็งและตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ดี ด้วยความเก๋าประสบการณ์ ทำให้ แก้ว ออกหมัดเข้าเป้าได้จะแจ้งกว่า ฟลิสซี หลังจบยกที่ 1 แก้ว มีคะแนนนำ 7-6 หมัด
     
เข้าสู่ยกที่ 2 แก้ว เริ่มผ่อนคลายมากขึ้น ไม่เกร็งเหมือนในยกแรก ทำให้ชกได้เข้าฟอร์ม ออกหมัดเข้าเป้าสวย ๆ หลายหมัด ทำให้ยกนี้ แก้ว ทำคะแนนนำห่างออกไปเป็น 14-9 หมัด (คะแนนยก 2 แก้วได้ 7 หมัด ฟลิสซีได้ 3 หมัด)
     
ส่วนในยกสุดท้าย แก้ว ที่คะแนนนำเยอะ พยายามเต้นฟุตเวิร์คหลบหลีก ไม่เข้าคลุกวงในกับคู่ต่อสู้ อาศัยความเก๋าคุมเกมเอาไว้ได้แบบสบาย ๆ ชกครบ 3 ยก แก้ว เอาชนะไปได้อย่างสวยงาม 19-11 หมัด ผ่านเข้าสู่รอบที่ 2 ต่อไป (คะแนนยก 3 แก้วได้ 5 หมัด ฟลิสซีได้ 2 หมัด)
     
สำหรับในรอบหน้า แก้ว พงษ์ประยูร จะขึ้นชกกับ คาร์ลอส กุยโป ปิลาตาซี นักมวยจากเอกวาดอร์ ที่เอาชนะ โจเซ เด ลา นีเว ลินาเรส จากสเปน 14-11 หมัด ในวันเสาร์ที่ 4 ส.ค. เวลา 21.00 (ตามเวลาท้องถิ่น) หรือ 03.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)

สภากาชาดมอบโล่สดุดีศรีอาสา




วันนี้ ( 1 ส.ค.) ที่อาคารแพทยพัฒน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นประธานในพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลถวายแด่องค์อุปถัมภ์ และให้แก่ผู้อุปถัมภ์ อดีตผู้บริหารอาสากาชาด และผู้มีอุปการคุณต่อสำนักงานอาสากาชาดที่ล่วงลับไปแล้ว เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานอาสากาชาด ครบรอบ 72 ปี
 
จากนั้นนายแผน ได้มอบโล่สดุดีศรีอาสาให้กับอาสากาชาด จำนวน 163 ราย เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติในฐานะอาสากาชาดผู้ทำคุณประโยชน์ โดยมี นางประพีร์ ปุ้ยพันธวงศ์ ประธานอาสากาชาดกิตติมศักดิ์ เข้ารับโล่สดุดีด้วย นอกจากนี้ยังมีการมอบประกาศนียบัตรให้กับอาสาอาชาดที่ผ่านการอบรมในปี  2554-2555 จำนวน 98 ราย และเข็มเครื่องหมายประสิทธิภาพให้แก่อาสากาชาดที่ปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องครบตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ จำนวน 275 ราย



เชื่อบ้านอาถรรพ์ต้นเหตุเพลิงไม้ชุมชนบ้านครัวใต้




วันนี้ (1ส.ค.) พ.ต.อ.เทียนชัย คามะปะโส ผกก.สน.ปทุมวัน เปิดเผยถึงความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ชุมชนบ้านครัวใต้ว่า หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุในช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่าบริเวณชุมชนที่เกิดเหตุถูกเพลิงไหม้เสียหายเป็นวงกว้าง โดยทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เริ่มเข้าตรวจสอบภายในบ้านเลขที่ 24 ซึ่งเป็นบ้านไม้ทรงไทยอายุเก่าแก่กว่า 200 ปี ที่คาดว่าจะเป็นบ้านต้นเพลิง เนื่องจากมีพยานเห็นว่า ต้นเพลิงเกิดจากบริเวณด้านหลังของบ้านหลังดังกล่าว ทั้งนี้จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวมีนางยะห์ ไม่ทราบชื่อจริง-นามสกุล เป็นเจ้าของบ้าน แต่เจ้าตัวป่วยเป็นอัมพาตนอนพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล และได้ให้นางแอ๋ว ไม่ทราบชื่อจริง-นามสกุล กับคนอื่นๆอีก 5-6 คน เป็นคนดูแลบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวมาสอบปากคำในภายหลัง เนื่องจากขณะนี้ ทางกทม.ได้เข้ามาช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยให้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ไปลงทะเบียนรับความช่วยเหลือในเรื่องที่พักอาศัย
พ.ต.อ.เทียนชัย กล่าวต่อว่า สำหรับส่วนพยานที่เห็นเหตุการณ์ในช่วงเกิดเหตุนั้น มีเพียงชายวัย 28 ปี ซึ่งมีอาการป่วยทางประสาทคนเดียว โดยก่อนเกิดเหตุเจ้าตัวเป็นหนึ่งในคนที่พักอาศัยอยู่ในบ้านต้นเพลิง และเห็นประกายไฟเกิดขึ้นที่แผงสวิตช์ไฟด้านหลังบ้าน ก่อนจะเกิดเปลวไฟลุกลามไปอย่างรวดเร็ว จึงรีบวิ่งออกไปเรียกให้ชาวบ้านมาช่วยดับไฟ ทั้งนี้บ้านต้นเพลิงหลังดังกล่าวนั้นอยู่ในระหว่างประกาศขายในราคา 20 ล้านบาท แต่ยังไม่มีใครกล้าซื้อ เนื่องจากมีเสียงร่ำลือว่ามีอาถรรพ์อยู่ อย่างไรก็ตามทางพนักงานสอบสวนต้องสอบพยานแวดล้อมเพิ่มเติม รวมทั้งรอผลการตรวจสอบที่เกิดเหตุจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานว่าสาเหตุของเพลิงไหม้เกิดจากอะไร

สำหรับเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 02.00 น.ของวันเดียวกัน โดยพ.ต.ท.เจริญสิทธิ์ จงอิทธิ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ปทุมวัน ผู้รับผิดชอบคดีนี้ ได้นำกำลังรถดับเพลิงไประงับเหตุ แต่เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุเป็นชุมชนแออัดมีบ้านเรือนประชาชนปลูกติดกันจำนวนหลายหลัง ทำให้การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องนำหัวฉีดน้ำเข้าสกัดกั้นทั้งทางบกด้านถนนพระราม 1 ถนนพระราม 6 และถนนบรรทัดทอง นอกจากนี้ยังต้องใช้เรือดับเพลิงช่วยฉีดน้ำจากภายในคลองแสนแสบ โดยใช้เวลานานประมาณ 50 นาที เพลิงจึงสงบ ประเมิณความเสี่ยหายไว้ที่ 15 ล้านบาท



เคาะผ่านนายพลใหญ่47ตำแหน่ง



วันนี้ ( 1 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ร.ต.อ.เฉลิม อยุ่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความั่นคง เดินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ครั้งที่ 11/2555 โดยมีวาระที่สำคัญคือการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรองผบ.ตร. - ผบช. และเห็นชอบเปิดตำแหน่ง ผช.ผบ.ตร.
 
ทั้งนี้ สำหรับวารการแต่งตั้ง ข้าราชการตำรวจระดับรองผบ.ตร. - ผบช. จะมีการอนุมัติจากคณะกรรมการก.ตร. ให้ดำรงตำแหน่ง ตามที่ คณะกรรมการคัดเลือกเห็นชอบแต่งตั้งโยกย้าย 47 ตำแหน่ง ประกอบด้วย 1. พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ที่ปรึกษา (สบ10) 2. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่ปรึกษา(สบ10) ดำรงแหน่งหลักคือ รองผบ.ตร. 3. พล.ต.อ.อัมรินทร์ อัครวงษ์ ที่ปรึกษา(สบ10) เป็นจตช. 4. พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผู้ช่วยผบ.ตร. 5. พล.ต.ท.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ผู้ช่วยผบ.ตร. 6. พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ ผู้ช่วยผบ.ตร. 7. พล.ต.ท.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ผู้ช่วยผบ.ตร. 8. พล.ต.ท.เจตน์ มงคลหัตถี ผู้ช่วยผบ.ตร. ขึ้นเป็นที่ปรึกษา(สบ10)
 
9. พล.ต.ท.สมเดช ขาวขำ ผบช.สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(สทส.) 10. พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผบช.กองบัญชาการศึกษา(ศ.) 11. พล.ต.ท.พีระพงศ์ ดามาพงศ์ ผบช.สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ(สพฐ.ตร.) 12. พล.ต.ท.เอกรัตน์ มีปรีชา จเรตำรวจ(จตร.)(สบ8) 13. พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร ผบช.ตำรวจภูธรภาค8 (ภ.8) 14. พล.ต.ท.ภัทรชัย หิรัญญะเวช ผบช.สำนักงานกฎหมายและคดี(กมค.) 15. พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.ภ.9 16. และพล.ต.ท.นเรศ เทียนกริม จตร.(สบ8)17. พล.ต.ท.อาจิณ โชติวงศ์ จตร. เป็นผช.ผบ.ตร. 18. และ พล.ต.ท.อรรถพร อุทยานนท์ จตร.(สบ8) ขึ้นเป็น รองจตช.(สบ 9)
 
19. พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน จตร.(สบ8) ขึ้นเป็น รองจตช.(สบ9) 20. พล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ รองผบช.น. เป็นผบช.ภ.1 21. พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภ.1 เป็น ผบช.ภ.2 22 พล.ต.ต.เชิด ชูเวช รองผบช.ก. เป็น ผบช.ภ.3 23. พล.ต.ต.กวี สุภานันท์ รองผบช.ภ.4 เป็น ผบช.ภ.4  24. พล.ต.ท.ยงยุทธ เจริญวานิช ผบช.ประจำสง.ผบช.ตร.เป็น ผบช.ภ.8 25.พล.ต.ต. พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รองผบช.น. เป็นผบช.ภ.9 26. พล.ต.ต.สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง รองผบช.ศู นย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศชต.) เป็น ผบช.สันติบาล 27. พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น เป็น ผบช.สพฐ.ตร.  28. พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.ภ.3 เป็น ผบช.สตม. 29. พล.ต.ต.สุรพงษ์ เขมะสิงคิ รองผบช.ศชต. ลูกหม้อ ตชด. ขึ้นเป็น ผบช.ตชด.
 
30. พล.ต.ต.สุวิระ ทรงเมตตา รอง ผบช.รร.นรต. เป็น ผบช.ศ. 31. พล.ต.ต.ชัยยง กีรติขจร จตร. (สบ8) เป็น ผบช.กตร. 32. พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผบช.สกพ.  เป็นผบช.สกพ. 33. พล.ต.ต.วัฒนา สักวัตร รองผบช.ภ.5 เป็น ผบช.สำนักงานกฎหมายและคดี 34. พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ รองผบช.สทส. ขึ้นผบช.สทส. 35. พล.ต.ต.สุชีพ หนูนาง รองผบช.7 เป็น ผบช.สำนักงานตรวจสอบภายใน 36. พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงศ์ รองผบช.ภ.7 เป็น ผบช.ประจำสำนักงานผบ.ตร.ทำหน้าที่ที่ปรึกษาประสานบก.สส. 37. พล.ต.ต.สุรพล ธนโกเศศ รองผบช.สตม. ขึ้นผบช.ประจำ ประสานสง.ผบ.ตร.ทำหน้าที่ประสานสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย
 
38.พล.ต.ต.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา รองผบช.ภ.4 เป็น ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร.ทำหน้าที่บริหารด้านป้องกันปราบปราม  39. พล.ต.ต. จิตต์เจริญ เวลาดีวงณ์ รองผบช.สยศ.ตร. ขึ้นเป็น ผบช.ประจำสภาความมั่นคงแห่งชาติ  40. พล.ต.ต.พิสัณห์ จุลดิลก รองผบช.ภ.8 ขึ้นเป็น ผบช.ประจำด้านนโยบายและแผน  41. พล.ต.ต.จุติ ธรรมโนวานิช รองผบช.ภ.7 ขึ้นเป็น ผบช.ประจำ ทำหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสืบสวน 42. พล.ต.ท.ยงยศ นาคเฉลิม ผบช.สกพ. เป็น หัวหน้าจตร.(สบ8)  43. พล.ต.ต. วรเทพ เมธาวัธน์ รองผบช.สตม.เป็นจตร.(สบ 8) 44. พล.ต.ต.สมโชค เจริญพร รองผบช.สกพ. เป็น จตร.(สบ8) 45. พล.ต.ต.คำรบ ปัญญาแก้ว รองผบช.ภ.7 เป็นจตร.(สบ 8)  46. พล.ต.ต.พจน์ ไทยกล้า รองผบช.ภ.6 เป็น จตร.(สบ8) 47. พล.ต.ต.ณรงค์ กาญจนะ รองจตร(สบ7) ขึ้นเป็น จตร.(สบ8)
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเปิดตำแหน่งผช.ผบ.ตร. คาดว่า คณะกรรมการก.ตร.จะมีการสอบถามถึงหน้าที่ความรับผิดชอบเท่านั้นและเห็นชอบการเปิดตำแหน่งเพื่อส่งเรืองให้ คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ เปิดตำแหน่งต่อไป

รมว.กลาโหมเล็งประกาศเคอร์ฟิวส์ดับไฟใต้



วันนี้ (1ส.ค.)  ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกลุ่มผู้ก่อเหตุลอบวางระเบิดโรงแรมซีเอสปัตตานี จ.ปัตตานี ว่าเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุที่พยายามเร่งให้ตัวเองมีความสำคัญมากขึ้น  จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เราเสียกำลังพลไปมาก เราจะนำแผนที่มีอยู่เดิมไปปฏิบัติให้เร็วขึ้น ทั้งนี้ตนได้หารือกับ ผบ.เหล่าทัพ ซึ่งได้ลงความเห็นกันว่าต้องนำกำลังจากหลาย ๆ ส่วนมาช่วยกัน เพราะเห็นจุดอ่อนของกองทัพบก คือทำงานที่ไม่ใช้หน้าที่ของตนเองมากเหมือนจับฉ่าย ซึ่งก็ไม่อยากจะโทษหน่วยอื่น แต่อยากให้หน่วยต่าง ๆ เหล่านั้นส่งกำลังมาให้มาเพื่อสนับสนุนทหารด้วย เช่น การจับกุมของเถื่อน ยาเสพติด ซึ่งทหารไม่สมควรที่จะเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ทำหน้าที่เพื่อสนับสนุนเท่านั้น เพราะทหารเองนั้นมีภารกิจมากอยู่แล้ว หน้าที่ตรงนี้ขาดกำลังตำรวจที่มาดูแล จึงต้องเสริมกำลังตำรวจมาจุดนี้ ทหารอย่างเดียวรับภารกิจมากก็จะหนัก    
พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า สำหรับภารกิจประจำที่ทหารทำอยู่นั้นวิเคราะห์กันว่าทหารเป็นเป้านิ่ง แต่ก็ต้องทำ เช่น การคุ้มครองพระ ครู นักเรียน  ซึ่งมีเวลาไปกลับที่แน่นอน และก็จะต้องทำกันทั้งวัน ทำให้ผู้ก่อเหตุรู้การเคลื่อนไหวจึงมีโอกาสที่จะถูกโจมตีมาก ส่วนเรื่องการวางระเบิดโรงแรมซีเอสปัตตานี จ.ปัตตานีนั้น ก็พลาดเหมือนกัน เพราะที่ผ่านมาโรงแรมนี้เคยถูกระเบิดมาแล้วซึ่งคิดว่าเป็นสถานที่ปลอดภัยแต่ก็มาโดน ถือว่ายังดีที่ความเสียหายน้อยไม่มีคนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ทั้งนี้การที่ตนได้พูดคุยกับ ผบ.ทบ. และ ผบ.ทอ. ว่าจะนำกำลังทางอากาศเข้ามาช่วยดู แต่จะเป็นการปฏิบัติการที่เล็ก ๆ ไม่ถึงขั้นเอฟ-16 เพื่อใช้ในการลาดตระเวน โดยจะมีการติดอาวุธ เพราะว่าภารกิจประจำ เช่นบนถนนที่จะต้องไปส่งคน อย่างเช่นกรณีที่กลุ่มผู้ก่อเหตุปิดถนนยิงเจ้าหน้าที่ทหารจนเสียชีวิตถึง 4 นาย ทั้งนี้คิดว่าถ้ามีเครื่องบินอยู่ข้างบนโอกาสนั้น คงเกิดขึ้นอยาก แต่ทั้งนี้ก็ต้องให้ ผบ.เหล่าทัพ พูดคุยกันก่อน            
เมื่อถามว่า การแบ่งงานให้หน่วยงานอื่น ๆ กับการเพิ่มกำลังทหารอย่างไหนจะดีกว่ากัน พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ภารกิจของใครๆก็ทำ และจะต้องทำตลอดไม่ใช่จะทำแค่สองโมงเช้าถึงสี่โมงเย็น เพราะสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้มีทั้งคืน การเอาทหารลงไปก็จะต้องเข้าใจว่า เพราะต้องทำงานทั้งวันก็แย่เหมือนกันมันโอเวอร์โหลด  ที่ผ่านมาทหารทำหมดทุกอย่างตั้งแต่ยาเสพติด ของเถื่อน การดูแลปัญหาชายแดน การตั้งด่านตรวจค้น กำลังก็หมด ซึ่งแผนต่าง ๆ ที่มีอยู่ถือว่าดีอยู่แล้ว แต่การปฏิบัติการตามแผนเป็นไปตามที่ได้สั่งการไว้หรือไม่ เพราะหน่วยปฏิบัติมีอยู่มากก็จะต้องดูตรงนี้ให้ชัดเจนด้วย ถ้าหากหน่วยปฏิบัติได้ทำการตามแผนแล้วยังมีเหตุการณ์ขึ้นแสดงว่าแผนไม่ดีก็จะต้องไปปรับปรุงที่แผน
สำหรับในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการก็จะต้องดูแลเรื่องของโรงเรียนปอเนาะ เพราะทุกกระทรวงได้รับงบประมาณมาเหมือนกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยบอกไปกับผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปแล้ว ในเรื่องเงินที่ส่งไปช่วยเหลือทั้งด้านการศึกษาตามรายหัวถึงมือผู้รับหรือไม่ เช่นมีนักเรียน 100 คน แต่ทำเงินเบิกไปเป็นนักเรียน 200 คน และถามว่างบประมาณส่วนนั้นไปไหน ไม่ใช่ว่านำงบประมาณส่วนนั้นกลับมาทำร้ายเรา ก็จะต้องดูด้วย            
เมื่อถามถึงกรณีที่ที่ นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรี  ตั้งศูนย์ปฏิบัติการดับไฟใต้ที่มี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่กำกับดูแลนั้น พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ศูนย์จะจัดตั้งอยู่ที่ กทม. ซึ่งต่อไปนี้ศูนย์ดังกล่าวจะคอยแก้ไขปัญหาให้เกิดปัญหาอะไรขึ้นก็จะต้องรีบแก้ไข ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ซ้ำซ้อนกลับหน่วยงานที่มีอยู่ เพียงแต่เพื่อให้การทำงานกระชับมากขึ้น ส่วนขวัญกำลังใจของทหารในพื้นที่ ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ยืนยันว่ากำลังใจดี ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม เข้ามาดูปัญหาไฟใต้ ก็จะดูแลในเรื่องของตำรวจเพื่อที่จะกำชับให้เกิดความรัดกุมตามความต้อง แต่ไม่ได้เข้ามาจุ้นจ้านในส่วนของกองทัพ
ทั้งนี้จะให้กองทัพ และ ตำรวจ ผนึกกำลังกัน เมื่อถามว่า จากที่ได้มีการหารือกับ ผบ.เหล่าทัพ ได้มีการพูดคุยเรื่องการบังคับใช้กฎหมายพิเศษเพื่อให้เกิดความรัดกุมอย่างไร พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกัน และเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องทำ จึงจะต้องขอโทษหากเกิดความไม่สะดวกก็ช่วยไม่ได้ เวลาอย่างนี้จะมาเอาใจกันว่าไม่สะดวกไม่ได้แล้ว บางครั้งผู้ช่วยใหญ่ผู้ใหญ่บ้านคนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านเวลา 23.00 น.ก็เรียบร้อย ซึ่งเป็นเรื่องที่เราห้ามไม่ได้ แต่ถ้าถึงเวลาและอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้เราก็ไม่ออกไป ก็จะมีการนำกฎหมายมาบังคับใช้ เพราะจำเป็นจะต้องทำแล้วในวันนี้ ถ้าหากมีการบังคับใช้กฎหมายแล้ว หากออกมาก็ซัดไปเลย ต้องเอามั้งไม่อย่างนั้นก็ไม่ไหว          
เมื่อว่าสถานการณ์ถึงขั้นประกาศเคอร์ฟิวหรือไม่นั้น พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า อย่าเพิ่งพูดเรายังไม่ได้พูดในรายละเอียดกัน ตนยังตอบไม่ได้ต้องค่อย ๆ ว่ากันไป โดยเฉพาะรายละเอียดในกฎหมายฉบับนี้ เมื่อถามว่ารัฐบาลยังสามารถควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้หรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพล ย้อนถามกลับสื่อว่าคุณคิดว่าได้หรือไม่ ผู้สื่อข่าวจึงได้ตอบกลับไปว่า สถานการณ์ในพื้นที่ยังมีการก่อเหตุเป็นรายวัน ซึ่งเป็นส่วนทางกลับที่รัฐบาลบอกคุมได้ แต่ รมว.กลาโหม ไม่ตอบคำถามสื่อ  เมื่อถามว่า รมว.กลาโหม จะลงพื้นที่พร้อมนายกรัฐมนตรีเมื่อไหร่ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีว่าจะลงไปในพื้นที่เมื่อไหร่ ส่วนจำเป็นจะต้องลงหรือไม่นั้น ไม่ใช่ว่าถึงเวลาปุ๊บจะต้องลงพื้นที่ทันที วันนี้จะต้องส่งกำลังเข้าไปดูสถานการณ์ว่าเป็นอย่างไร ถ้านายกรัฐมนตรี ลงไป ก็จะต้องเอากำลังพลมาดูแลเป็น 100 คน ทำงานกันไม่ได้ รอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมค่อยไป ไม่ใช่ไปสร้างภาพ แต่ก็ยอมรับว่าการที่นายกรัฐมนตรี หรือ ตนลงพื้นที่ ก็จะเป็นการลงไปให้กำลังใจกำลังพลในพื้นที่ เพียงแต่ต้องรอเวลาให้เหมาะสมเท่านั้น แต่ไม่ใช่เวลานี้เพราะมันยังไม่จำเป็น




มาร์คติงนายกฯร้องเพลงกระทบใจคนใต้



วันนี้ ( 1 ส.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่านายกรัฐมนตรี และรัฐบาลต้องทบทวนหลายสิ่งที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในเรื่องกรอบนโยบายที่ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ เสนอต่อที่ประชุมของสภา ถือเป็นแนวทางที่ถูกต้อง แต่ในทางกลไกการปฏิบัติได้เดินตามแนวทางนั้นหรือไม่ ซึ่งจากการได้พูดคุยกับผู้สังเกตการณ์ นักวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ภาคใต้ ก็ยังยืนยันว่าขณะนี้มันยังมีความจำเป็นที่ต้องซักซ้อมทำความเข้าใจให้ทุกหน่วยงานนั้นเดินตามนโยบายหรือกรอบนโยบายตรงนั้น หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลมันก็มีการเปลี่ยนแปลงบุคลากรค่อนข้างเยอะ อยากให้รัฐบาลได้ให้ความสนใจ แล้วก็ใส่ใจในการที่จะเข้ามาดูเรื่องนี้

เมื่อถามว่าคิดอย่างไรกับในขณะที่เกิดเหตุระเบิดที่ รร.ซีเอส ปัตตานี แต่พรรคร่วมรัฐบาลมีงานเลี้ยงฉลองที่ รร. มิราเคิล แกรนด์ และมีการร้องเพลงสุขกันเถอะเรา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากให้นายกรัฐมนตรีระมัดระวังในเรื่องของภารกิจต่าง ๆ ว่าอย่าให้มันเกิดกระทบความรู้สึกในเรื่องที่เป็นความละเอียดอ่อนของสถานการณ์
ด้าน น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ของส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล เมื่อค่ำวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับการเกิดเหตุระเบิด 2 จุดที่จ.ปัตตานี ว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลมีความห่วงใยในสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมี 17 หน่วยงานเข้าร่วม โดยมีพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี  นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ร่วมกันเป็นประธานดูแลในส่วนนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมีการดำเนินงานแก้ปัญหานี้อย่างต่อเนื่อง
น.ส.ศันสนีย์ กล่าวอีกว่า ส่วนการที่สังคมออนไลน์ตั้งข้อสังเกตเรื่องความเหมาะสมในเรื่องของ 2 เหตุการณ์นี้นั้น ที่จริงแล้ว ตนขอให้ประชาชนแยกแยะด้วย เพราะระหว่างที่นายกรัฐมนตรีร่วมงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน ปีฮ.ศ.1433 ที่ทำเนียบรัฐบาลนั้น ได้รับรายงานเกี่ยวกับเหตุระเบิดดังกล่าวและสั่งการไปแล้ว และในการร่วมงานเลี้ยงของส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ได้มีส.ส.หญิงเชิญนายกรัฐมนตรีขึ้นร้องเพลงบนเวที ซึ่งท่านเห็นว่ามีบรรยากาศการผ่อนคลายและเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล นายกฯจึงขึ้นไปร้องเพลง
"โดยท่านยังได้ลงมาเชิญผู้ใหญ่ที่เป็นแกนนำของพรรคร่วมรัฐบาลขึ้นบนเวทีด้วย อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้เข้าใจว่านายกฯทำงาน แต่ตนมองว่าสิ่งที่เกิดบนเวทีไม่ได้เป็นการรื่นเริงจนเกินไป จึงขอความเห็นใจจากประชาชนให้แยกแยะ ซึ่งการแก้ปัญหาในภาคใต้นั้น รัฐบาลทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และจากที่ตนได้รับข้อมูลจากการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน ก็พบว่าสถิติการก่อเหตุรุนแรงในเดือนรอมฎอนเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ถือว่าปีนี้ลดลง" น.ส.ศันสนีย์ กล่าว



เปิดประชุมสภาฯ นัดแรก หวิดวุ่น




วันนี้ ( 1 ส.ค.) ที่รัฐสภา มีกาประชุมสภาผู้แทนราษฎร  โดยมีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์  ประธานสภาผู้แทนราษฎร  ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม  หลังจากประธานแจ้งให้สมาชิกรับทราบในเรื่องต่างๆเสร็จสิ้นลง และเมื่อเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม  นายพิษณุ หัตถสงเคราะห์ ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย เสนอญัตติให้เลื่อนวาระการพิจารณาโดยนำเรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้วคือ ร่างพ.ร.บ. จำนวน10 ฉบับ อาทิ ร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย พ.ศ...  ร่างพ.ร.บ.สถานพยาบาล (ฉบับที่ ...)พ.ศ...  ร่างพ.ร.บ.วิชาชีพแพทย์แผนไทย พ.ศ.... เป็นต้น ขึ้นมาพิจารณาแทนร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ....จำนวน 4 ฉบับ ที่ค้างอยู่ในการพิจารณาวาระที่ 1ของสภาผู้แทนราษฎร


ทำให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์  ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ลุกขึ้นโต้แย้งว่า ขอความชัดเจนว่าการประชุมสภาในวันนี้เป็นการประชุมนัดพิเศษ การเลื่อนวาระขึ้นมาเป็นการเลื่อนมาสำหรับพิจารณาในการประชุมนัดพิเศษครั้งต่อไปหรือเลื่อนขึ้นมาพิจารณาในการประชุมสภาผู้แทนตามปกติ ทั้งนี้ฝ่ายค้านเคยขอให้เลื่อนการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ปรองดองออกไปในการประชุมครั้งที่ผ่านมาแต่กลับไม่ได้รับการตอบสนองมาวันนี้อยู่ดีๆ ก็เลื่อนการพิจารณาออกไป อยากทราบว่าชัดเจนจากประธานสภาผู้แทนราษฏรที่เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะหารือกับผู้เสนอร่างฯ เพื่อให้ถอดร่างออกไป แต่กลับไม่มีการหารือหรือการดำเนินการเพื่อให้ถอดกฎหมายออกไป
 

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ร่างพ.ร.บ.ปรองดองฯ ยังมีความเห็นที่แตกต่างกันมากจึงควรถอนร่างออกไปก่อนเรื่องนี้ผู้ที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้คือ ประธานรัฐสภา   ผู้ยื่นร่างและนายกรัฐมนตรี ซึ่งรัฐบาลถือว่าเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างเป็นทางการเนื่องจาก ครม.เคยมีมติให้จัดสานเสวนาเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องนี้รัฐบาลควรเป็นผู้แก้ไขปัญหา โดยรัฐบาลควรให้ถอนร่างของพรรคร่วมรัฐบาลออกไปขณะที่ร่างของพล.อ.สนธิ บุญยรัตนกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ แม้พล.อ.สนธิจะไม่ถอนร่างแต่ผู้ร่วมเสนอกฎหมายสามารถเสนอถอนกฎหมายได้ การเลื่อนการพิจารณาออกไปไม่ได้แก้ไขปัญหาความขัดแย้งแต่กลายเป็นการแก้ปัญหาแบบลิงพันแหไปเรื่อย ทางที่ดีคือการถอนร่างกฎหมายทั้ง 4ฉบับออกไปจะช่วยทำให้บ้านเมืองไม่เข้าสู่ความวุ่นวาย ทั้งนี้หากประธานจะให้ลงมติเลื่อนวาระขึ้นมาพิจารณาฝ่ายค้านจะวอล์กเอาท์ออกจากห้องประชุมเพราะไม่เห็นด้วย
 
ทำให้นายสมศักดิ์ต้องกล่าวยืนยันต่อที่ประชุมว่า ไม่เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะให้ถอนร่างพ.ร.บ.ปรองดอง และไม่เคยบอกว่าจะไปคุยกับเจ้าของญัตติ แต่พูดมาตลอดว่าส่วนตัวอยากให้ยื้อร่างพ.ร.บ.ปรองดองออกไป เพื่อไปทำแนวทางประชาเสวนา ให้ได้ข้อยุติร่วมกันก่อน

 

โดยหลังจากปล่อยให้หารือเกือบ 1 ชั่วโมง นายสมศักดิ์ได้กล่าวตัดบทว่า เมื่อไม่มีผู้เห็นเป็นอย่างอื่น สัปดาห์หน้าการประชุมจะเริ่มพิจารณาจากกระทู้ถาม จากนั้นจะพิจารณาวาระที่เลื่อนขึ้นมา 10 ฉบับ เมื่อเสร็จแล้วจะต่อด้วยร่างพ.ร.บ.ปรองดอง 4 ฉบับ และจะเข้าสู่วาระที่ 2คือเรื่องที่ประธานฯจะแจ้งต่อที่ประชุม อาทิ การรับทราบรายงานผลการตรวจสอบและการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) รับทราบรายงานผลการดำเนินการเรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย แต่นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เสนอญัตติคัดค้านไม่ให้เลื่อนวาระร่างพ.ร.บ. ในที่สุดที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับญัตติของนายพิษณุ  ด้วยคะแนน 272 ต่อ 1 เสียง งดออกเสียง 8 ไม่ลงคะแนน 6
///////////////////

หน่วยข่าวแจ้งเตือนบุคคลวีไอพีระวังตกเป็นเป้าหมายโจรใต้



วันนี้ ( 1 ส.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก  (บก.ทบ.) พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงภายหลังการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงของกองทัพบกที่มีพล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)เป็นประธานในการประชุมว่า ในที่ประชุมผบ.ทบ.ได้เล่าและแสดงความคิดเห็นกับผู้บังคับหน่วยได้รับทราบถึงการปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าสถานการณ์เริ่มตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งกองทัพบกเข้าไปมีส่วนช่วยแก้ไขตั้งแต่เริ่ม โดยเป็นไปตามกรอบยุทธศาสตร์ และนโยบายตามกรอบกฎหมาย ซึ่งการแก้ไขปัญหาแบบยั่งยืนต้องมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน และหน่วยงานด้านความมั่นคงจะทำงานได้อย่างรวดเร็ว หากได้รับความร่วมมือจากประชาชน ทั้งนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยในปัญหาชายแดนภาคใต้ และสั่งการให้ทุกกระทรวง ทบวง กรม เข้ามาขับเคลื่อน พร้อมีทั้งยังติดตามการแก้ปัญหาอย่างใกล้ชิด
 
“ปัญหาที่เกิดขึ้น ผบ.ทบ.ได้เล่าว่าอาจจะไม่สามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นจะต้องขับเคลื่อนแบบบูรณาการไปด้วยกัน ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ ทางผบ.หน่วยต้องชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการทำงาน และติดตามสถานการณ์เรียนรู้ถึงบทเรียนที่เกิดขึ้นร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ดีขึ้น   ส่วนกรณีที่นายกฯได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ ทางผบ.ทบ.จะได้ประชุมร่วมกับผบ.หน่วย เพื่อเตรียมการทำงานให้สอดคล้องตามที่รัฐบาลได้กำหนดขึ้นโดยพล.อ.ดาว์พงษ์  รัตนสุวรรณ รองผบ.ทบ.ที่ได้เข้าไปประชุมร่วมกับนายกฯเมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมาจะนำเนื้อหาสาระมาแจ้งให้หน่วยที่ปฏิบัติงานรับทราบ พร้อมกับหารือถึงการปฏิบัติที่จะสนับสนุนและสอดคล้องกับแนวทางการทำงานของศูนย์ฯ คาดว่า 1-2 วันจะมีความชัดเจน ทั้งนี้เหตุการณ์ความรุนแรงที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ให้ความสนใจเรื่องความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ที่ทำงาน โดยต้องนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาเรียนรู้ร่วมกัน ทั้งหน่วยที่เกิดเหตุและหน่วยที่จะลงไปปฏิบัติงาน รวมถึงหน่วยสนับสนุน แต่สิ่งสำคัญการแก้ไขปัญหาต้องยึดกฎหมายเป็นหลัก เราไม่สามารถปฏิบัตินอกเหนือจากนี้ได้”พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าว
เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ในการประกาศเคอร์ฟิวเพื่อแก้ปัญหาภาคใต้ พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า  ผบ.ทบ.ระบุว่า ที่ผ่านมา พยายามให้ประชาชนได้ใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ได้ตั้งกฎเกณฑ์ ถ้าจะต้องปรับเปลี่ยนและเกิดความไม่สะดวกกับประชาชน คงเป็นเรื่องลำดับหลังๆที่เราจะคิด แต่เจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวังในการปฏิบัติในทุกเรื่อง สิ่งหนึ่งที่ผบ.ทบ.กำชับ คือ ให้หน่วยที่เกี่ยวข้องสั่งให้กำลังพลระมัดระวังใส่ใจเป็นพิเศษ ถือเป็นสิ่งที่เป็นมาตรฐานในการปฏิบัติ และต้องให้ความรู้กำลังพล และให้ระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสีย
 
เมื่อถามว่า ต้องปรับยุทธวิธีหรือไม่ พ.อ.ศิริจันทร์ กล่าวว่า ต้องเป็นไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และต้องปรับให้สอดคล้องกับความเป็นอยู่ของประชาชน ขณะนี้ยังคงปฏิบัติตามกรอบยุทธศาสตร์และยุทธวิธีตามที่รัฐบาล กระทรวงกลาโหม กองทัพบก และกอ.รมน.ได้วางไว้ ทั้งนี้ผบ.ทบ.ไม่ได้มีการประเมินสถานการณ์ภาคใต้ แต่เจ้าหน้าที่ด้านการข่าวได้ประเมินแนวโน้มของสถานการณ์ว่า อาจจะต้องมีความสุ่มเสียงเรื่องของเจ้าหน้าที่รัฐมากยิ่งขึ้นจึงต้องระมัดระวัง ส่วนเรื่องการสร้างความปลอดภัยให้เจ้าหน้าที่ผบ.ทบ.สั่งให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการ โดยร่วมมือกับหน่วยที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา วิจัย และพัฒนา กรมวิทยาศาสตร์ กระทรวงกลาโหมในการนำอุปกรณ์จากการวิจัยมาเป็นเครื่องมือในการทำงานหรือตรวจวัตถุระเบิด เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่
รายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงของกองทัพบกครั้งนี้ทางหน่วยงานทางด้านการข่าวได้มีการแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ทหารให้มีความระมัดระวังต่อการก่อเหตุจากผู้ก่อความไม่สงบ เพราะขณะนี้เจ้าหน้าที่ผู้ใหญ่ที่จะไปร่วมกิจกรรม บุคคลสำคัญ บุคคลสาธารณะในพื้นที่ ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายในการก่อเหตุ ทั้งนี้ภายหลังจากการประชุมทางผบ.ทบ.ได้ประชุมพันธกิจร่วมกับกอ.รมน.เกี่ยวกับการตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้ทางกองทัพบกได้ให้รัฐบาลเลือก 1 ใน 3 สถานที่ คือ ทำเนียบรัฐบาล กองทัพบก และกอ.รมน. เพื่อจัดเป็นที่ตั้งของศูนย์ปฏิบัติการ โดยจะมีพล.อ.ยุทธศักดิ์  ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นผอ.ศูนย์ นายยงยุทธ  วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย  พร้อมด้วยร.ต.อ.เฉลิม  อยู่บำรุง รองนายกฯ เป็นที่ปรึกษาศูนย์ฯ  โดยมี รมว.กลาโหม ปลัดกลาโหม และผบ.เหล่าทัพเป็นรองผอ.ศูนย์ และเสนาธิการทหารบกเป็นเลขานุการศูนย์ โดยศูนย์ดังกล่าวจะทำหน้าที่ในการติดตามสถานการณ์และรายงานตรงต่อผอ.ศูนย์และนายกฯ  รวมถึงอำนวยการแก้ไขสถานการณ์เบื้องต้น
สำหรับการประกาศเคอร์ฟิว หรือการห้ามประชาชนเข้า-ออกจากเคหะสถานในเวลากลางคืนนั้น เป็นข้อเสนอของกอ.รมน.ที่จะใช้บางมาตราของพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ) โดยจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี เห็นชอบเร็วๆนี้ โดยจะกำหนดเป็นกรอบกว้างๆ เน้นพื้นที่ที่เป็นเส้นทางย่อย เส้นทางลัด พื้นที่ที่ผู้ก่อเหตุสามารถหลบหนีได้ โดยรายละเอียดเส้นทางจะให้ทางกองทัพภาคที่ 4 ไปจัดทำแผนมา ซึ่งมีหลายร้อยเส้นทาง หากครม.เห็นชอบ คาดว่า จะให้แม่ทัพภาคที่ 4 ประกาศใช้ได้ภายหลังจบเดือนรอมฎอน

ทีมจีบีเชือดอุรุกวัยซิวแชมป์กลุ่ม



การแข่งขันฟุตบอลชายโอลิมปิคเกมส์ 2012 นัดสุดท้าย รอบแรก กลุ่ม A ที่สนามมิลเลนเนียม สเตเดี้ยม ในกรุงคาร์ดิฟฟ์ “เจ้าภาพ” สหราชอาณาจักร ที่มี 4 คะแนนจาก 2 นัด พบกับ อุรุกวัย ที่มี 3 แต้ม ผลปรากฏว่า “ทีม จีบี” เป็นฝ่ายเฉือนชนะหวุดหวิด 1-0 โดยได้ประตูชัยจาก แดเนียล สเตอร์ริดจ์ กองหน้าจาก เชลซี ในนาทีที่ 45 ส่วนอีกคู่เล่นกันที่ ซิตี ออฟ โคเวนทรี สเตเดี้ยม ในเมืองโคเวนทรี เซเนกัล เสมอ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1-1 ส่งผลให้ในกลุ่มนี้ สหราชอาณาจักร เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม มี 7 แต้ม เซเนกัล เข้ารอบเป็นอันดับ 2 มี 5 คะแนน ส่วน อุรุกวัย ที่มี 3 คะแนน และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่มีแต้มเดียว ตกรอบไปทั้งคู่
ผลการประกบคู่ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ญี่ปุ่น พบ อียิปต์, เม็กซิโก พบ เซเนกัล, บราซิล พบ ฮอนดูรัส, สหราชอาณาจักร พบ เกาหลีใต้ โดยทุกคู่จะเล่นกันในวันเสาร์ที่ 4 ก.ค. นี้

สุดเสียดาย!จตุภูมิชวดทองแดงหวุดหวิด



การแข่งขันยกน้ำหนัก รุ่น 77 กก. ชาย ในกีฬาโอลิมปิคเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา ไทยส่ง “เจ้าก็อต” จตุภูมิ ชินวงศ์ จอมพลังจากจังหวัดนครราชสีมาลงชิงชัย ผลปรากฏว่านักยกลูกเหล็กไทยชวดโอกาสคว้าเหรียญทองแดงมาครองอย่างหวุดหวิด หลังยกท่าสแนตช์ได้ 157 กก. ขณะที่ คลีนแอนด์เจิร์ก ยกได้ 191 กก. น้ำหนักรวม 348 กก. แพ้ อิวาน คัมบาร์ โรดริเกวซ จากคิวบา ที่ทำน้ำหนักรวมได้ 349 กก. ไปอย่างหวุดหวิด โดยที่ “เจ้าก็อต” มีโอกาสยก คลีนแอนด์เจิร์ก ที่น้ำหนัก 195 กก. ถึง 2 ครั้งเพื่อทำน้ำหนักแซงขึ้นไปอยู่อันดับ 3 แต่เจ้าตัวยกพลาดไปทั้ง 2 ครั้งอย่างน่าเสียดาย
ขณะที่เหรียญทองเป็นของ ลู่ เสี่ยวจุ้น จากจีน น้ำหนักรวม 379 กก. ทำลายสถิติโลกเดินที่เจ้าตัวเคยทำไว้ 378 กก. ลงได้สำเร็จ และเหรียญเงินเป็นของ ลู่ เหาเจี่ย จากจีนเช่นกัน น้ำหนักรวม 360 กก.





Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More

 
Design Downloaded from Free Blogger Templates Download | free website templates downloads | Vector Graphics | Web Design Resources Download.