ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ 083-792-5426

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured post 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured post 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured post 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured post 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามตำแหง บางกะปิ 083-792-5426

วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

บุพเพอาละวาดหนุ่มสาวแปลงเพศกลายเป็นคู่รัก





กามเทพเล่นกล หนุ่มสาววัยรุ่นชาวอเมริกัน ที่ผ่านการแปลงเพศจากชายเป็นหญิง และหญิงเป็นชาย ได้กลายเป็นคู้รักหวานแหวว
วันนี้ (11 พ.ย.) รายงานของหนังสือพิมพ์เดลิเมล์ของอังกฤษ ระบุว่า หนุ่มสาววัยรุ่นชาวอเมริกัน ที่ผ่านการแปลงเพศทั้งคู่ ได้กลายเป็นคู้รักกันอย่างน่าประหลาดใจ หลังจาก เคธี ฮิลล์ วัย 18 ปีและ อาริน แอนดรูว์ วัย 16 ปี ได้พบกันในงานสังสรรค์ของกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสังคม ในเมืองทุลซ่า บ้านเกิดของทั้งสองในรัฐโอกลาโฮมา
รายงานระบุว่า เคธีวัย 18 ปี ปัจจุบันกลายเป็นหญิง ใช้ชีวิตตลอด 15 ปีแรกในร่างเด็กชาย ในนาม ลุค ฮิลล์ เป็นลูกชายของนายทหารหน่วยนาวิกโยธินยศพันโท ส่วนอาริน ในร่างใหม่เด็กหนุ่ม เกิดเป็นเด็กหญิง ก่อนนี้ใช้ชื่อว่า เอเมอรัลด์ ตอนเด็กเรียนการเต้นบัลเลต์จนชำนาญ และเคยชนะการประกวดเด็กสวยน่ารักมาแล้ว ทั้งสองคนเผยภายหลังว่า มีจิตใจเหมือนเพศตรงข้ามกับที่เป็นอยู่ และต่างก็ใช้ฮอร์โมนบำบัด ก่อนจะตัดสินใจผ่าตัดแปลงเพศ
ด้าน พ.ท. แรนดี นาวิกโยธินวัย 58 ปี และนางแจซลีน วัย 44 ปี พ่อและแม่ของเคธี เผยว่า ตอนแรกทั้งสองคนพยายามเต็มที่ ในการจัดการกับความรู้สึกสับสนของลูกชาย แต่ไม่สำเร็จ ในที่สุดก็ต้องปล่อยเลยตามเลย และก็ไม่น่าเชื่อว่า แฟนหนุ่มของลูกชายที่กลายเป็นสาวจะเคยเป็นผู้หญิงมาก่อน.

ผงะงูยักษ์"อนาคอนดา"ในป่าลึกบราซิล






นักผจญภัยและตากล้องสารคดีชาวสวิส บุกป่าดงดิบประเทศบราซิล ก่อนจะเผชิญหน้ากับพญางูยักษ์อนาคอนดาขนาดความยาว 8 เมตร และบันทึกภาพมาให้ชาวโลกได้เห็น
วันนี้ (11 พ.ย.) รายงานในเว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดลี่ เมล์ ของอังกฤษ ระบุว่า นายฟรังโก บันฟี วัย 53 ปี นักผจญภัยดำน้ำ และตากล้องสารคดีชาวสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมกับเพื่อน เดินทางไปท่องเที่ยวแถบป่าลึกดงดิบ ในเขตมาโต กรอสโก โอ ซุล ของประเทศบราซิล ในทวีปอเมริกาใต้ เป็นเวลา 10 วัน โดยในช่วงเวลาดังกล่าว เขาได้เผชิญหน้ากับงูยักษ์อนาคอนดาตัวหนึ่ง ซึ่งมีขนาดความยาวของลำตัวประมาณ 8 เมตร (26 ฟุต) ขณะดำน้ำเพื่อถ่ายภาพธรรมชาติ ในแม่น้ำสายหนึ่งในเขตป่าลึก ซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันตกค่อนไปทางใต้ของบราซิล ติดเขตแดนประเทศโบลิเวียและปารากวัย
นายบันฟีคุณพ่อลูก 2 ตลอด 10 วันของการท่องป่าจังหวัดมาโต กรอสโก เขาได้พบงูอนาคอนดาตัวเขื่องมากกว่า 10 ตัว แต่ตัวที่ถ่ายภาพชุดนี้มีขนาดใหญ่กว่าตัวอื่นๆ และโชคดีขณะที่พบมันเพิ่งกินสัตว์บางอย่างเข้าไปจนพุงกาง มันกำลังอิ่มจึงไม่ให้ความสนใจเขาและคณะเดินทางมากนัก.

ฮ.กองทัพตุรกีร่วงทหารดับ17ศพยกลำ




เฮลิคอปเตอร์กองทัพตุรกี บรรทุกทหารออกปราบกบฏชาวเคิร์ด ตกลงในเขตเทือกเขาก่อนถึงจุดหมาย ทหารบนเครื่องเสียชีวิตทั้งลำ 17 ศพ
วันนี้ (10 พ.ย.) สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงอังการา ประเทศตุรกี ว่า เฮลิคอปเตอร์กองทัพตุรกีตกในวันนี้ ขณะบรรทุกทหารออกสู่แนวหน้า ซึ่งทหารกองทัพรัฐบาลกำลังต่อสู้กับกองกำลังกบฏชาวเคิร์ด ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ทำให้ทหารที่อยู่บนเครื่องเสียชีวิตทั้งลำ 17 ศพ โดยจุดที่เฮลิคอปเตอร์แบบไซคอร์สกีตกอยู่บนภูเขา เขตจังหวัดซีอีร์ท ทางตะวันออกเฉียงใต้ เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด
นายอาเหม็ด ไอย์ดิน ผู้ว่าการจังหวัดซีอีร์ท เผยว่า ทหารกองทัพตุรกีกำลังต่อสู้ติดพันกับนักรบกบฏชาวเคิร์ด กลุ่มพรรคคนงานเคอร์ดิสถาน (พีเคเค) ตามแนวพรมแดนด้านติดกับอิรักและอิรัก ติดต่อกันมา 3 วันแล้ว โดยในช่วงดังกล่าวฝ่ายกบฏถูกสังหาร 43 ศพ.

คืบหน้าเด็กแว้นไล่ยิงอริดับ3เจ็บ3







รอง ผบช.น. เร่งคลายคดีเด็กแว้นเหิมยิงอริดับ 3 เจ็บ 3 สั่งสืบสวนหาข้อมูลพยานแวดล้อม พยานวัตถุ เช็คกล้องวงจรปิด เชื่อยังกบดานอยู่ในพื้นที่
จากกรณีกลุ่มเด็กแว้นเหิมไล่ยิงคู่อริดับ 2 ราย และบาดเจ็บ 4 ราย ภายในซอยเทอดไท 33 (วัดบางสะแกใน) แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี และซอยจอมทอง 14  แขวงบางค้อ เขตจอมทอง จนปลอกกระสุนเกลื่อนเต็มถนน โดยปมเหตุเกิดจากแค้นเก่ากลุ่มก่อเหตุยึดรถ จยย. แต่กลุ่มผู้เสียชีวิตกลับนำรถขับมาเย้ยตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เย็นวันนี้(10 พ.ย.) ที่ สน.บางขุนเทียน พล.ต.ต.มานิตย์ วงศ์สมบูรณ์ รอง ผบช.น. เรียกประชุมชุดคลี่คลายคดี มีพล.ต.ต.ชยุต รัตนอุบล ผบก.น.9. พ.ต.อ.ทักษิณ พ่วงเงิน รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผกก.สส.บก.น.9 พ.ต.อ.ธนกฤต ไชยจารุวุฒิ ผกก.สน.บางขุนเทียน พ.ต.ท.วรลภย์ สุวรรณเกษการ รอง ผกก.สส.สน.บางขุนเทียน พ.ต.ต.บวรชัย ตันสุทัตต์ สว.กก.สส. บก.น.9 พร้อมชุดสืบสวน บก.น.9 ร่วมประชุมใช้เวลาประมาณ 2 ช.ม.
โดย พล.ต.ต.มานิต กล่าวว่า ขณะนี้กำชับเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หาข้อมูล พยานแวดล้อม พยานวัตถุ ตั้งแต่พื้นที่ สน.ตลาดพลู สน.บุคคโล และสน.บางขุนเทียน พร้อมประสานขอดูกล้องวงจรปิดจากร้านค้า และบ้านเรือนประชาชนที่มีกล้องวงจรปิด เบื้องต้นเชื่อว่า คนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันเนื่องจากพบปลอกกระสุนขนาด 9 ม.ม. มาจากปืนกระบอกเดียวกัน หลังจากนี้จะมีการหารือให้ สถานีตำรวจพื้นที่ใดเป็นผู้รับผิดชอบคดี อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้ก่อเหตุยังคงกบดานอยู่ในพื้นที่ จะสามารถนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้อย่างแน่นอน
 
พล.ต.ต.มานิต กล่าวอีกว่า สำหรับผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ มี 3 ราย ประกอบด้วย 1.นายอิทธิกร หรืออ๊อฟ วงศ์คำจันทร์ อายุ 22 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ วัดบางสะแกใน ซอยเทอดไท 33 พื้นที่ สน.บุคคโล 2.นายสมชาย หรือนิว เพ็ชรปานกัน อายุ 18 ปี  เสียชีวิต ที่ซอยจอมทอง 14 พื้นที่ สน.บางขุนเทียน และ3.นายนรากร หรือติม สิทธิโพธิ์ อายุ 17 ปี ที่ถูกยิงเข้าลำตัวหลายนัด เสียชีวิตที่โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ สำหรับผู้บาดเจ็บ นายฉัตรชัย หรือตูน สุวรรณเกต อายุ 17 ปี และนายอัครพงษ์ กันทรอินทร์ อายุ 18 ปี ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล..

สมาชิกทีมยิง"พีระ"ชิงมอบตัวปฏิเสธข้อหา












สมาชิกทีมยิง “พีระ ตันติเศรณี” นายกเทศมนตรีนครสงขลา ชิงมอบตัวหลังถูกออกหมายจับไม่นาน ปฏิเสธทุกข้อหา ด้านตำรวจมั่นใจหลักฐาน หิ้วตัวค้นบ้านพักของ นายกอบจ.สงขลา คนสนิทที่พักอาศัยอยู่ด้วย
ความคืบหน้าคดีฆ่า นายพีระ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา ซึ่งถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตเมื่อคืนวันที่ 7 พ.ย. ผ่านมา จนถึงขณะนี้ย่างเข้าสู่วันที่ 4 ของการสืบสวนคลี่คลายคดี ล่าสุดวันนี้ (10 พ.ย.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา ได้เสนอขออนุมัติศาลจังหวัดสงขลา เพื่อออกหมายจับคนร้ายแล้ว 1 คน คือ นายไพศาล หนูพันธ์ อยู่บ้านเลขที่ 2/10 ถนนแหล่งพระราม อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งเป็นมือปืนสังกัดซุ้มมือปืนใน อ.ระโนด จ.สงขลา และศาลได้อนุมัติออกหมายจับทันที จากการสืบสวนสอบพบว่าคดีนี้มีผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนของผู้บงการและมือปืนทั้งสิ้น 6 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเตรียมออกหมายจับทั้งหมด
ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. นายไพศาลได้เดินทางมาขอเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา โดยเดินทางมากับญาติด้วยรถยนต์ 6 คัน เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมทันทีตามหมายจับของศาลจังหวัดสงขลา และแจ้งดำเนินคดี 3 ข้อหาคือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ พกพาอาวุธและเครื่องกระสุนปืนเข้ามาในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร แต่นายไพศาลให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
  หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายไพศาล พร้อมหมายค้นไปตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 55/1 ถนนนาสาร เขตเทศบาลนครสงขลา ซึ่งเป็นบ้านพักของ นายอุทิศ ชูช่วย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด พี่ชายของ นายกิตติ ชูช่วย เจ้าของสถานีวิทยุสมิหลาเรดิโอ ที่พบรถปิกอัพของกลุ่มมือปืนไปจอดทิ้งไว้ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยสาเหตุที่ต้องเข้าตรวจค้นที่บ้านของนายอุทิศ เนื่องจากนายไพศาลเป็นคนสนิทและอาศัยอยู่ในบ้านของนายอุทิศ
  โดยระหว่างการควบคุมนายไพศาลไปตรวจค้นที่บ้านของนายอุทิศ เจ้าหน้าที่ได้สวมเสื้อเกราะให้กับนายไพศาล เพื่อความปลอดภัย และมีกำลังเจ้าหน้าที่จากหน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธร ภาค 9 ตรึงกำลังอย่างแน่นหนา และหลังการเข้าตรวจค้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายไพศาลไปสอบสวนอีกครั้ง และคัดค้านการประกันตัว ทั้งนี้ สำหรับ นายไพศาล จากการตรวจสอบประวัติ พบว่าเคยต้องคดีฆ่าคนตายในพื้นที่ อ.ระโนด จ.สงขลา เมื่อปี 2550
  ส่วนบรรยากาศที่หน้าสำนักงานสงขลาฟอรั่ม ถนนนครใน เขตเทศบาลนครสงขลา ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุที่นายพีระถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต ยังคงมีชาวสงขลานำดอกไม้ไปวางไว้ที่พื้นหน้าสำนักงานสงขลาฟอรั่ม เพื่อแสดงความอาลัยต่อการจากไป พร้อมกับเขียนข้อความยกย่องการเป็นนักการเมืองของนายพีระ ใส่แผ่นกระดาษมาวางไว้ด้วย และไม่คิดว่าจะมาจบชีวิตด้วยการถูกยิงอย่างอุกอาจเช่นนี้ ซึ่งสร้างความสะเทือนใจให้กับชาวสงขลาเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ขอเรียกร้องให้ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้าย รวมถึงผู้บงการให้ได้โดยเร็ว
  สำหรับการออกหมายจับ นายไพศาล ซึ่งเป็นหนึ่งในมือสังหารนั้นเจ้าหน้าที่มีหลักฐานสำคัญจากปลอกกระสุนปืนคาร์บินที่ตกอยู่ในระกระบะ 4 ประตูสีบรอนซ์ ของคนร้ายซึ่งผลการตรวจพิสูจน์ตรงกับปลอกกระสุนปืนที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุรวมทั้งเอกสารคู่มือรถยนต์และภาพถ่ายของหัวหน้าซุ้มมือปืนที่ตกอยู่ภายในรถ ในส่วนของคดีนี้ได้มีการเชิญผู้เห็นเหตุการณ์มาสอบสวนหาข้อเท็จจริงแล้วจำนวน 10 คน แต่ปัญหาขณะนี้ไม่มีใครกล้าที่จะมาเป็นพยานเพราะเกรงอันตราย
  อย่างไรก็ตามในส่วนของผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ เจ้าหน้าที่ได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ประกบตัว และติดตามความเคลื่อนไหวไว้ทุกคนแล้ว โดยเฉพาะมือปืนซึ่งทราบว่ายังอยู่ในพื้นที่ จ.สงขลา เพียงแต่รอการอนุมัติหมายจับจากเท่านั้น....

ยิงดับ รองนายก อบต.ท้ายเหมือง






มือปืนจ่อยิง รองนายก อบต.ท้ายเหมือง 7 นัดเสียชีวิตทันที ตำรวจคาดเป็นเรื่องการเมืองท้องถิ่น


  เมื่อเวลา 14.15  น.วันนี้ (10 พ.ย.)  ร.ต.ท.นคร ตั้งรวมทรัพย์ พนักงานสอบสวน สภ.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา รับแจ้งเหตุยิงกันตายที่บริเวณริมถนนสายบ้านนาใต้-บ้านปิหลาย เยื้องกับร้านนาใต้ผับ พื้นที่ หมู่ 5 บ้านนาใต้ ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมชาย สรรประเสริฐ ผกก.สภ.โคกกลอย และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ที่เกิดเหตุพบว่ามีพลเมืองดีนำผู้ถูกยิงส่งโรงพยาบาลตะกั่วทุ่งแล้ว
 จึงตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรอยเลือดกองอยู่ริมถนน และบริเวณใกล้กันพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. 7 ปลอก  จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ตายชื่อนายสุทน สร้อยทอง หรือ รองแล่ม อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70/2 หมู่ 5 ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง  โดยผู้ตายเป็นคนสนิทของ นายสนิท วรกิจ นายก อบต.ท้ายเหมือง และเพิ่งจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองนายก อบต.ท้ายเหมืองเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

 สำหรับการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ ต.ท้ายเหมือง เป็นพื้นที่ที่มีการแข่งขันกันรุนแรงในการเลือกตั้งเมื่อเดือนตุลาคม 2555 ที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุนายสุธน ได้เดินทางมาธุระในพื้นที่ที่เกิดเหตุ ในขณะที่กำลังจะเดินกลับไปขึ้นรถยนต์เพื่อเดินทางกลับบ้านพักในพื้นที่ ต.ท้ายเหมือง ได้มีคนร้าย 2 คน ใช้รถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนด์ทอง หมายเลขทะเบียน 9111 (ไม่ทราบจังหวัด) ขับมาจอดและลงมาจ่อยิงทันที กระสุนโดนที่ศีรษะ หน้าอกและลำตัวรวม 7 นัด ทำให้นายสุธนเสียชีวิตคาที่ ส่วนคนร้ายได้วิ่งขึ้นรถเร่งเครื่องยนต์ขับหลบหนีไปตามเส้นทางบ้านนาใต้-ตลาดโคกกลอย และเส้นทางบ้านนาใต้- บ้านบ่อดาน  ส่วนสาเหตุการสังหารนั้น ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน แต่เบื้องต้นได้มุ่งปมกว้างๆ คือ เรื่องของความขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น ซึ่งจะได้มาการสืบสวนหาสาเหตุต่อไป พร้อมกับเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
     ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงและประชาชนในพื้นที่ตำบลท้ายเหมืองจำนวนมากต่างแสดงความเสียใจขณะมารอรับศพของผู้ตายที่โรงพยาบาลตะกั่วทุ่ง และคาดว่าสาเหตุการถูกยิงครั้งน่าจะมาจากเรื่องการเมืองท้องถิ่น...

วิศวกรหนุ่มแคนาดาหึงโหดกะซวก50แผลดับทนาย







วิศวกรหนุ่มแคนาดา หึงโหด กะซวกทนายความ บัณฑิตปริญญาโทและเนติบัณฑิตยสภาหมาดๆ ร่างพรุนดับสยอง 50 แผล สุดแค้นบินกลับ หาภรรยาชาวไทย พบภาพบาดตาบาดใจ ในรังรักของตัวเอง
เมื่อเวลา 17.00 น. วันนี้(10พ.ย.) ร.ต.อ.(หญิง)เสาวลักษณ์ สุวรรณมณี พนักงานสอบสวน  สน.คันนายาว รับแจ้งมีแทงกันตายในบ้านเลขที่ 418/63 หมู่บ้านฮาบีเทีย แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา รุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผกก. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต๊กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น ปลูกภายในพื้นที่ 100 ตารางวา ภายในห้องนอนใหญ่ชั้นสองของบ้าน พบศพ นายคมสันต์ อักษรชาติ อายุ 59 ปี ทนายความ ซึ่งเพิ่งจบปริญญาโทคณะนิติศาสตร์ ม.รามคำแหง และเพิ่งจบเนติบัณฑิตยสภา เสียชีวิตคว่ำหน้า สภาพถูกแทงด้วยอาวุธมีด เข้าที่ลำตัวจนพรุนไปทั่วร่าง ทั้งคอ หน้าท้อง และด้านหลัง รวม 50 แผล เลือดกระเซ็นสาดไปทั่วห้อง
ส่วนที่บริเวณเคาท์เตอร์ชั้นล่างของบ้าน มีมีดทำครัว 2 เล่มสภาพเปื้อนเลือดวางอยู่ ขณะผู้ก่อเหตุยืนรอมอบตัวอยู่หน้าบ้าน ทราบชื่อนายมาคอส บียอนด์ อายุ 42 ปี ชาวแคนาดา วิศวกรบริษัทต่างประเทศ เจ้าของบ้าน โดยมี น.ส.ภัชราภรณ์ ปิ่นอ่อน อายุ 42 ปี แฟนสาวนายมาคอส ยืนคอยให้กำลังใจ ขณะที่นอกรั้วบ้านมีรถฮอนด้า แอคคอร์ด ทะเบียน ฌพ 168 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ เป็นของผู้ตาย ตรวจค้นภายในรถพบปืนขนาด .38 วางอยู่ในช่องเก็บของ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนทราบว่า นายมาคอส คบกับ น.ส.ภัชราภรณ์ มาได้ 6 ปี ด้วยความที่เจ้าตัวเป็นวิศวกรทำงานให้บริษัทต่างประเทศ ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยครั้ง นานๆจึงกลับมาหาแฟนสาว ต่อมาระยะหลังแฟนสาวได้ไปเรียนปริญญาโท ที่ ม.รามคำแหง ได้รู้จักกับผู้ตาย ผ่านการแนะนำของเพื่อนฝูง จนเริ่มสนิทสนมกันเรื่อยมา โดยนายมาคอส ไม่เคยระแวงในเรื่องสัมพันธ์เชิงชู้สาว กระทั่งก่อนเกิดเหตุ นายมาคอส บินกลับมาจากต่างประเทศกะทันหัน ไม่ได้บอกแฟนสาว เมื่อมาถึงทางเข้าบ้านเห็นแฟนสาวอยู่กับผู้ตาย สองต่อสอง ด้วยความหึงหวง จึงคว้ามีดทำครัว มากระหน่ำแทงผู้ตายไม่ยั้งมือจนเสียชีวิตดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า สาเหตุมาจากความหึงหวง ที่มาพบภาพบาดตาบาดใจแฟนสาวอยู่กับชายอื่น จึงบันดาลโทสะลงมือฆ่าก่อเหตุ ส่วนสาเหตุที่แท้จริงจะทำการสอบสวนผู้ต้องหาและแฟนสาวอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง..

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More

 
Design Downloaded from Free Blogger Templates Download | free website templates downloads | Vector Graphics | Web Design Resources Download.