ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามคำแหง บางกะปิ 083-792-5426

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured post 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured post 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured post 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured post 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ รามตำแหง บางกะปิ 083-792-5426

วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

แฟนกรี๊ดสนั่น “3 ทหารเสือสาว” เกินคาด! หาเงินช่วยการกุศลทะลุเป้า








ไทยทีวีสีช่อง 3 ร่วมกับ ทีวีซีน จัดคอนเสิร์ต “3 ทหารเสือสาว ลิมิเต็ด อิดิชั่น ไลฟ์ โชว์” ณ ชั้น 8 เซ็นทรัลเวิลด์ไลฟ์ ฮอลล์ ที่จัดผ่านพ้นไปหมาด ๆ ได้เสียงกระแสตอบรับจากแฟน ๆ ดีเกินคาด โดยคอนเสิร์ตครั้งนี้ได้เหล่าพระเอกและนางเอกจากซีรีส์ “3 ทหารเสือสาว” ซึ่งได้แก่ เรื่อง “มายาตวัน”, “มนต์จันทรา” และ “ฟ้ากระจ่างดาว” มาร่วมโชว์สุดอลังการ นำโดย ญาญ่า-อุรัสยา ควงคู่มากับพระเอกหล่อล่ำ อั้ม-อธิชาติ, นางเอกสาวร่างเล็ก มาร์กี้-ราศรี ประกบคู่มากับ ชาคริต แย้มนาม และนางเอกสาวนัยน์ตาคม แมท-ภีรนีย์ จูงมือมากับหนุ่มหล่อสุดเกรียน บอย-ปกรณ์
เปิดเวทีด้วยความยิ่งใหญ่ ด้วยบทเพลงจาก 3 ทหารเสือสาว อย่าง ญาญ่า–มาร์กี้-แมท ด้วยเมดเล่ย์เพลง “เหรอ” และ “มิวสิค เลิฟเวอร์” ต่อด้วยการโชว์สเต็ปสุดมันจากคู่พระนางในแต่ละเรื่อง โดย มาร์กี้-ชาคริต มาในเพลง ’ไม่ใช่ผู้ชาย“ หลังจากนั้น อั้ม ก็ควง ญาญ่า โชว์พลังเพลง ’ติ๊กต่อก“ นอกจากนี้ หนุ่มอั้ม ยังได้มอบบทเพลงสุดซึ้งให้กับแฟน ๆ ได้ประทับใจกันใน ’ไกลแค่ไหนคือใกล้“ และต่อด้วย หนุ่มบอย ที่ไม่สลัดความเกรียนออกมาทั้งร้องและเต้น ’เช้าไม่กลัว“ นอกจากยังมีทัพนักแสดงมากความสามารถมาสร้างสีสันบนเวทีอีกเพียบ อาทิ หนุ่ม-ศรราม, กิก- ดนัย, เต๋า ดราก้อนไฟว์, อาเธอร์ เบญจกุล, เบนซ์-พรชิตา, หวานหวาน, ไมค์-พิรัชต์ และ วงอีทีซี ท้ายสุดสำหรับคอนเสิร์ตครั้งนี้สามารถหารายได้ทั้งหมดกว่า 5 ล้านบาท เพื่อจะนำไปซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อมอบให้กับโรงพยาบาลทหารผ่านศึกต่อไป เรียกว่าอิ่มทั้งความสนุก แน่นไปด้วยบุญทั้งคนแสดงและผู้ชมเลยนะเนี่ย!.

'ป๊อบปี้' ไม่น้อยใจ 'ใบเตย' เด่นกว่า ปลื้มกระแสแรงเพิ่มฐานแฟนเพลง



เรียกว่าเซอร์ไพร้ส์วงการเพลงจริง ๆ กับการพานักร้องสาวลูกทุ่งสั้นเสมอหู ใบเตย อาร์สยาม มาฟีทเจอริ่งกับทีฮอปสไตล์อย่างวงทรีทูวัน แต่ก็ไม่วายมีกระแสข่าวเมาท์ว่านักร้อง
นำวงทรีทูวันอย่างสาว ป๊อปปี้-ชัชชญา ส่งเจริญ แอบน้อยใจที่สาวใบเตยเด่นกว่า งานนี้มีโอกาสเจอตัวสาวป๊อปปี้จึงถามถึงความรู้สึกทันทีแอบน้อยใจจริงหรือเปล่า
ป๊อบปี้ เผยว่า “ฟีดแบ็กเอ็มวีเพลง “รักต้องเปิด (แน่นอก)” ที่มีพี่ใบเตย มาฟีทเจอริ่งแรงมาก ก่อนจะปล่อยออกมาก็ตื่นเต้นเหมือนกันเพราะเราไม่เคยทำมาก่อน ก็กลัวแฟน ๆ จะชอบมั้ย แปลกไปหรือเปล่า แต่ส่วนใหญ่แฟน ๆ จะบอกว่าชอบพี่ใบเตย แล้วก็พูดถึงพี่ใบเตยเลยกลายเป็นพูดถึงทรีทูวันไปด้วย ดีใจที่ทุกคนชอบเพลงค่ะ ก็ไม่น้อยใจค่ะ เรายังมีน้อง ๆ แฟนคลับกามิกาเซ่ที่ชื่นชอบเราอยู่ แล้วรู้สึกว่าทำงานกับพี่ใบเตยก็เป็นประสบการณ์ที่ดี ทำให้ได้เห็นตลาดที่กว้างขึ้น แฟนคลับก็กว้างขึ้น ใครจะมองว่าแรงน้อยกว่าต้องยอมอยู่แล้วค่ะ เพราะพี่เขาเป็นลูกทุ่งมาแรงเซ็กซี่จริง ๆ เราเป็นรุ่นน้องเซ็กซี่รุ่นเล็กดีกว่า ตอนซ้อมเต้นก็ต้องใช้แรงเยอะมาก ครูที่สอนเต้นก็จะบิลต์เราตลอด ไม่เกร็งนะคะ แต่ห่วงภาพที่ออกมาจะดูไม่สวย แต่สำหรับป๊อปเองก็ทำเต็มที่แล้ว ดีใจกับพี่ใบเตยที่มาอยู่กับแนวพวกเราแล้วกระแสตอบรับดีที่ผสมกับทีฮอป ก็มีบ้างที่หาว่าพี่ใบเตยแย่งซีน ใครรักเราจะเข้าข้างเรา แต่ส่วนน้อยมาก ๆ ส่วนมากจะมาจับคู่จิ้นให้เราสองคนค่ะ (หัวเราะ) เราก็เห็นคอมเมนต์ เพราะเราเช็กประจำว่าคนมองเรายังไง แต่ไม่น้อยใจอะไรเลยอย่างน้อยเห็นคนเต้นท่าเราได้ก็โอเคเลย พี่เขาเองก็ทำให้คนรู้จักเรามากขึ้น มีแฟนคลับจากฝั่งอาร์สยามมาชอบกามิกาเซ่ด้วยค่ะ”.

'กัน-นภัทร' ปลื้ม! ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์วันงดสูบบุหรี่





เป็นประจำทุกปีที่องค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้วันที่ 31 พฤษภาคม เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก โดยในแต่ละปีได้มีการกำหนดประเด็นในการรณรงค์ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งในปีนี้ ได้มีการกำหนดประเด็นในการรณรงค์คือ “Ban tobacco advertising, promotion and sponsorship” หรือ “ไม่ใช้ ไม่รับ ไม่สนับสนุนโฆษณายาสูบร้ายทำลายชีวิต” และทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ก็ยังมีการคัดเลือกศิลปินที่มีประวัติดีเด่น ทั้งทางด้านอาชีพ และความประพฤติเหมาะสมกับการเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ไม่สูบบุหรี่ เป็นพรีเซ็นเตอร์วันงดสูบบุหรี่ ประจำปี 2556 โดยตัวแทนศิลปินที่ได้รับเลือกในปีนี้คือ กัน–นภัทร อินทร์ใจเอื้อ ศิลปินบริษัท จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ฯ
กิจกรรมแรกของโครงการคือ การถ่ายโปสเตอร์รณรงค์วันงดสูบบุหรี่ ซึ่งเจ้าตัวเป็นปลื้มและภูมิใจสุด ๆ ที่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ประจำปีนี้ โดยพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ไฟแรงไม่รอช้า นำของที่ระลึก และสติกเกอร์วันงดสูบบุหรี่ออกเดินสายรณรงค์ในทันทีบริเวณตลาดนัดสุทธิสาร โดยถึงกับทุ่มทุนกระโดดขึ้นไปรณรงค์บนรถเมล์อีกด้วย พร้อมปฏิบัติหน้าที่เชิญชวนให้ประชาชนเลิกสูบบุหรี่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งกระตุ้นให้ทุกคนหันมาใส่ใจสุขภาพ และร่วมสร้างสิ่งแวดล้อมปลอดควันบุหรี่ โดยเฉพาะเยาวชนที่ต้องกล้าคิด กล้าตัดสินใจ กล้าปฏิเสธบุหรี่  นอกจากนี้ในวันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม หนุ่มกันจะไปร่วมงานแถลงข่าวการจัดงานรณรงค์วันงดสูบบุหรี่โลก ประจำปี 2556 และในวันงดสูบบุหรี่โลก ที่ 31 พฤษภาคมนี้ จะเข้ารับประทานโล่ประกาศเกียรติคุณ จากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ อีกด้วย
กัน-นภัทร เปิดเผยว่า “ผมดีใจที่ได้เป็นต้นแบบของเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่ไม่สูบบุหรี่ และภูมิใจมากครับ ที่ได้รับเกียรติให้เป็นพรีเซ็นเตอร์เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลกในปีนี้ รวมทั้งได้เป็นส่วนหนึ่งที่ได้รณรงค์เรื่องนี้ให้สังคม ผมจึงขอฝากถึงใครก็ตามที่กำลังสูบบุหรี่ หรือกำลังคิดจะสูบว่า อย่าไปยุ่ง เพราะการสูบบุหรี่นั้นเป็นภัยต่อทั้งตัวเอง และคนรอบข้าง คนที่คิดว่าการสูบบุหรี่เป็นสิ่งที่เท่ ผมว่าความเท่คือ การรู้คุณค่าของตัวเอง และรู้คุณค่าของคนอื่นมากกว่าครับ”.

แพทย์ชนบทจี้ดีเอสไอสอบงบจัดซื้อเครื่องตรวจน้ำตาลแจกอสม.




“แพทย์ชนบท” จี้ดีเอสไอสอบสาธารณสุขใช้งบกว่า 147ล้าน จัดซื้อเครื่องตรวจน้ำตาลแจกอสม. เผยกฎหมายยังไม่รองรับ

เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติประธานชมรมแพทย์ชนบท เข้ายื่นหนังสือถึงนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เพื่อขอให้ตรวจสอบโครงการส่งเสริมศักยภาพอสม.ด้วยการสนับสนุนอุปกรณ์ที่จำเป็น (เครื่องตรวจน้ำตาลในเลือดแบบพกพา)ของกระทรวงสาธารณสุข 
นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ชมรมแพทย์ชนบทตรวจสอบพบความไม่ชอบมาพากลในการสั่งซื้อเครื่องตรวจน้ำตาลในเลือด 81,685 เครื่อง เพื่อแจกอสม.ทั่วประเทศ ในราคาเครื่องละ 1,800 บาท รวมเป็นเงิน 147,033,000 บาท ซึ่งมีประเด็นต้องสงสัย เช่น การที่กระทรวงสาธารณสุขมีการโอนงบประมาณและสั่งการให้จังหวัดต่างๆจัดซื้อไปแจกอสม.ทั้งที่ยังไม่มีกฎหมายรองรับอนุญาตให้อสม.ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยการเจาะเลือดจากปลายนิ้วเพื่อตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดผู้อื่นได้ ดังนั้น การกระทำดังกล่าวถือเป็นการใช้อำนาจเกินหน้าที่สั่งการจัดซื้อก่อนมีกฎหมายรองรับ  ส่อเจตนากดดันให้สภาวิชาชีพต้องยอมออกกฎหมาย  
นพ.เกรียงศักดิ์  กล่าวอีกว่า  นอกจากนี้ยังพบว่าปัจจุบันโรงพยาบาลจะไม่ใช้วิธีการจัดซื้อเครื่องตรวจน้ำตาล แต่ใช้วิธีการซื้อแถบตรวจวัดระดับน้ำตาล โดยบริษัทจะแถมเครื่องตรวจโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย อีกทั้งราคาแถบตรวจจะมีราคาเพียง แถบละ 5-7 บาท เท่านั้นและแถมเครื่องโดยไม่จำกัด เพื่อใช้ในการแจกให้สถานีอนามัยหรืออาคารผู้ป่วย แต่การซื้อเครื่องจะทำให้ต้องซื้อแถบตรวจน้ำตาลกับบริษัทไปโดยปริยายตลอด ซึ่งในปัจจุบันกลับพบว่าโรงพยาบาลต่างๆ ทั้งประเทศไม่มีการซื้อเครื่องตรวจน้ำตาลแต่อย่างใด พร้อมกันนี้ยกตัวอย่างอบจ.แห่งหนึ่ง จัดซื้อเครื่องตรวจน้ำตาลจากบริษัทในราคาชุดละ 2,500 บาท เมื่อใช้แถบตรวจที่แถมมาหมด จึงต้องจัดซื้อแถบตรวจน้ำตาลมาแจกใหม่กว่า 600,000 แถบ ในราคาแถบละ 30-50 บาท ซึ่งแพงกว่าราคาทั่วไปถึง 2 เท่า จึงต้องการให้ดีเอสไอตรวจสอบความผิดปกติเหล่านี้ เพราะเชื่อว่าส่อไปในทางทุจริตและใช้อำนาจเกินหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข และวันเดียวกันนี้จะยื่นขอให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเข้าไปตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณด้วย 
ขณะที่ อธิบดีดีเอสไอระบุว่า จะเรียกตัวแทนชมรมแพทย์ชนบทเข้าสอบปากคำอีกครั้ง จากนั้นจะพิจารณาว่าจำเป็นต้องเรียกตัวแทนกระทรวงสาธารสุขคนใดเข้าชี้แจงต่อไปหรือไม่.

ปปง.เปิด3นายทุนโจรใต้ บัญชีดำส่งเงินก่อการร้าย




ปปง.ประกาศชื่อนายทุนโจรใต้ 3 ราย หลังศาลแพ่งสั่งให้ขึ้นบัญชีดำหนุนเงินขบวนการก่อการร้ายตามมติสหประชาชาติ แฉพัวพันแก๊งค้ายาและค้าของเถื่อน

เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง. ได้แถลงข่าว การประกาศรายชื่อบุคคลไทยที่ถูกกำหนดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน การสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ประจำปี 2556 โดยระบุว่า จากกรณีคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงิน (Financial Action Task Force) หรือ FATF มีคำประกาศสาธารณะกำหนดให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีข้อบกพร่องเชิงยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ซึ่งในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาประเทศไทยได้ดำเนินแก้ไข ข้อบกพร่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินการให้สามารถบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายอย่างจริงจัง โดยสำนักงาน ปปง.ได้ดำเนินการประกาศรายชื่อผู้มีการกระทำอันเป็นการก่อการร้ายตามมติภายใต้คณะรัฐมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(UN)แล้ว เป็นบุคคลที่ถูกกำหนด รวมทั้งสิ้น 291 ราย ประกอบด้วย บุคคลธรรมดา 227 ราย นิติบุคคล คณะบุคคล หรือองค์กร 64 ราย ไปเมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา

“นอกจากนี้การดำเนินการในการบังคับใช้กฎหมายในประเทศไทย จากข้อมูลการก่อเหตุความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้รวบรวมพยานหลักฐาน ทำให้มีการออกหมายจับกว่า 4,000 ราย ด้านคณะกรรมการธุรกรรมได้พิจารณาแล้วมี 67 รายชื่อจึงส่งให้อัยการดำเนินการส่งสำนวนต่อให้ศาลแพ่งพิจารณาเป็นรายๆไป ซึ่งจะมีการทยอยประกาศรายชื่อ” เลขาธิการ ปปง. กล่าว

เลขาธิการ ปปง. กล่าวอีกว่า ดังนั้น เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา ศาลแพ่งจึงมีคำสั่งให้ 1.นายอำรัน มิง  2.นายอาหะมะ กาเจ  3.นายอับดุลเล๊าะฮ์ มะมิง เป็นบุคคลที่ถูกกำหนดตามความในมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย พ.ศ.2556 จะต้องระงับการทำธุรกรรมการเงินของบุคคลทั้งสามและต้องแจ้งให้ปปง.ทราบภายใน 3 วัน มิฉะนั้น จะถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ส่วนเงินที่สนับสนุนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มธุรกิจค้ายาเสพติด และธุรกิจค้าของเถื่อน โดยให้การสนับสนุนทั้งทางตรงและทางอ้อมแก่ผู้ก่อการร้าย

แม่ นศ.จันทรเกษมโวย ลูกโดนแฮกเกอร์ใส่ร้าย แกล้งเจาะเว็บทำเนียบ








หลังจากที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีผู้เข้าไปแฮกเว็บไซต์สำนักนายกรัฐมนตรี และรู้ตัวแล้วว่า เป็นคนนครศรีธรรมราช อายุ 29 ปี บ้านอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง นครศรีธรรมราช และขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับกุม ขณะเดียวกันได้มีการปล่อยภาพมือแฮกเกอร์ในอินเทอร์เน็ต ระบุชื่อว่านายณรงค์ฤทธิ์ สุขสาร นักศึกษาวิทยาการคอมพิวเตอร์ อยู่บ้านเลขที่ 114 หมู่ 3 ต.กำแพงเซา  อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เวลา 17.30 น.วันที่ 9 พ.ค. ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว พบนางสาคร สุขสาร อายุ 62 ปี มารดานายณรงค์ฤทธิ์ โดยกล่าวว่า  ตอนนี้นายณรงค์ฤทธิ์ หรือน้องเล็ก ไม่ได้อยู่ที่บ้านที่ จ.นครศรีธรรมราช และทำงานอยู่ที่ กทม. ในบริษัทคอมพิวเตอร์แห่งหนึ่ง ย่านถนนรัชดาภิเษก ซึ่งเป็นบริษัทของคนที่บุตรชายเรียกว่า “พี่โดม” ซึ่งเป็นเพื่อนรู้จักกันทางอินเตอร์เน็ต และเพิ่งชวนไปทำงานเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยแต่ละเดือนลูกชายจะส่งเงินมาให้แม่เดือนละ 4,000-5,000 บาท เพื่อมาเลี้ยงดูแม่ และยายชราที่เจ็บป่วย
“น้องเล็กเป็นเด็กดี นิสัยน่ารักว่านอนสอนง่าย เรียนทางด้าน วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทร์เกษม เป็นเด็กที่เก่งมาก แต่เรียนยังไม่จบ เหลืออีก 9 หน่วยกิจก็จะจบแล้ว น้องเล็กเก่งคอมมาตั้งแต่เด็กๆ ชอบเล่นเกมจนรู้เรื่องเกี่ยวกับเกมต่าง ๆ และคอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี ตอนที่เลิกเรียนจากมหาวิทยาลัยจันทร์เกษมกลับมาอยู่บ้านเปิดร้านซ่อม และสอนคอมคอมพิวเตอร์ ยืนยันว่าลูกเป็นเด็กดี” มารดาน้องเล็ก กล่าว
ขณะเดียวกัน นางสาคร ได้โทรศัพท์ไปคุยกับนายณรงค์ฤทธิ์ และใช้เวลาพูดคุยนานประมาณ 2 นาที หลังจากนั้นนางสาคร กล่าวว่า ลูกชายยืนยันว่าบริสุทธิ์ และถูกใส่ร้าย เนื่องจากน้องเล็กทะเลาะกับทีมแฮกเกอร์เลยถูกใส่ความ พร้อมบอกด้วยว่าแม่ไม่ต้องห่วง ช่วงเวลาที่มีแฮกข้อมูลสำนักนายก ฯ นั้น น้องเล็กกำลังทำงาน และมีหลักฐานยืนยันชัดเจน ขอให้แม่สบายใจได้.

สัมภาษณ์เปิดใจเด็กเก่ง “แอดมิชชั่น ปี’56”



วันนี้ (9 พ.ค.) หลังจากสมาคมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (สอท.) มีการแถลงข่าวประกาศผลแอดมิชชั่น ปี 2556 ผู้สื่อข่าวรายงาน นักเรียนที่ได้คะแนนสูงสุดในแต่ละคณะของคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาด้วยระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษา หรือแอดมิชชั่นกลางประจำปีการศึกษา 2556ได้เปิดเผยความในใจ  โดยนายสุธิวิชญ์ สร้อยสุวรรณ หรือ “ต้า” จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา  ได้คะแนนสูงสุดแอดมิชชั่น  คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า รู้สึกดีใจ เพราะเป็นคณะที่อยากเรียน โดยตนได้เลือกเรียนในสาขาการเมืองการปกครอง เพราะสนใจการเมือง และติดตามข่าวสารบ้านเมืองอยู่ตลอดเวลา
ส่วนตัวมองว่า การเมืองเป็นเรื่องของทุกคน แม้จะไม่สนใจแต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีผลกระทบกับทุกคน ดังนั้นควรมองและติดตามข่าวสารการเมืองอย่างเข้าใจ   รวมทั้งต้องรู้จักคิดวิเคราะห์สถานการณ์ต่าง ๆ ด้วย เพราะหากเราเชื่อไปตามข่าวสารทุกอย่าง โดยไม่มีการคิดวิเคราะห์ ก็จะเกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง  ส่วนเรื่องการเรียนนั้นตนเรียนได้เกรดเฉลี่ย 3.9 แต่ไม่ได้เครียด เพราะชอบทำกิจกรรมด้วย อีกทั้งไม่มีเคล็ดลับการเรียนเก่ง  แต่เป็นคนที่ชอบเรียน จึงคิดว่าหากเราได้ทำในสิ่งที่รัก และมีความสุขก็จะทำสิ่งนั้นได้ดี

“อนาคตผมไม่อยากเป็นนักการเมือง แต่อยากเป็นอาจารย์  เพื่อจะมาสอนเกี่ยวกับเรื่องการเมือง การปกครอง เพราะคิดว่าการให้ความรู้กับคนจะเป็นประโยชน์มากกว่า ฝากบอกนักการเมืองที่บริหารประเทศในปัจจุบันขอให้หันมาสนใจพัฒนาเรื่องการศึกษา และให้ความสำคัญกับเยาวชนมากขึ้น เพราะเด็กเหล่านี้จะโตเป็นผู้ใหญ่ ที่จะต้องไปพัฒนาประเทศได้” น้องต้า กล่าว
ด้าน “น้องแพรว”  หรือ น.ส.พิมพิกา ประสานศักดิ์สกุล จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ได้คะแนนสูงสุดคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ  กล่าวว่า  รู้สึกตื่นเต้น และดีใจมากที่ได้ที่ 1 คณะนิเทศ  เพราะเป็นคณะใฝ่ฝันจะเข้าเรียนให้ได้ แต่ต้องไปปรึกษากับพ่อแม่อีกครั้งว่าจะเรียนต่อในคณะนี้หรือไม่ เพราะขณะนี้ตนกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 1 คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ ซึ่งเป็นคณะที่ใฝ่ฝันเช่นกัน  อย่างไรก็ตามหากตนไม่เลือกเรียนคณะนิเทศฯ หลายคนคงคิดว่า แย่งที่นั่งคนอื่น แต่ตนอยากให้เข้าใจด้วยว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะทำตามความฝันของตนเอง ดังนั้นตนก็เลยลองมาแอดมิชชั่น  ทั้งนี้ ในการแอดมิชชั่นครั้งนี้ตนไม่ได้มีเคล็ดลับในการเรียนอะไรมาก เพียงแค่ตั้งใจเรียนให้องเรียน  แต่ตนยังเรียนพิเศษบ้างในรายวิชาที่จำเป็นต้องใช้แอดมิชชั่น  และเป็นรายวิชาที่ไม่ค่อยถนัด เช่น วิทยาศาสตร์ เป็นต้น  อย่างไรก็ตามอยากฝากเพื่อนๆ ที่พลาดหวังจากแอดมิชชั่นให้สู้ต่อไป เพราะแอดมิชชั่นไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต และปีหน้าก็ยังมีโอกาสที่จะแอดมิชชั่นใหม่ได้
ส่วน “น้องนิกกี้” หรือ นายวีรประพันธ์ กิติพิบูลย์ จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา คะแนนสูงสุดคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่สอบติดคณะดังกล่าว เพราะเป็นคณะในฝัน และเป็นคณะที่จะได้ทำหน้าที่เช่นเดียวกับคุณแม่ของตนซึ่งเป็นหมอฟัน  ส่วนเคล็ดลับการเรียนจะทำกิจกรรมควบคู่การเรียน  ซึ่งจะได้ทั้งความรู้และได้เพื่อน สังคม ดังนั้นฝากทุกคนให้ตั้งใจเรียนในห้องเรียน ทบทวนบทเรียนหลังเลิกเรียน เรียนกวดวิชาเฉพาะวิชาที่เราไม่ถนัด และต้องทำกิจกรรมโรงเรียนด้วย ส่วนคนที่พลาดแอดมิชชั่น ไม่ต้องเสียใจ เพราะยังมีมหาวิทยาลัย คณะดีๆให้เลือกเรียนอยู่ ขณะเดียวกันฝากพ่อแม่อย่าบังคับลูกเรียน แต่ขอให้ลูกได้เลือกเรียนคณะ สาขาที่ตนเอง และหากลูกพลาดหวังขอให้กำลังใจลูก
“น้องกาย” หรือ นายจิรวัฏ สมรักษ์ จากโรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร จังหวัดน่าน คะแนนสูงสุดของคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจมากที่ได้คะแนนสูงสูดคณะวิศวกรรมศาสตร์ เพราะไม่คิดว่าเด็กต่างจังหวัดจะสามารถทำคะแนนได้สูงสุดของคณะ ดังนั้นแสดงเห็นว่าเด็กต่างจังหวัดไม่ได้ด้อยไปกว่าเด็กในกรุงเทพ และไม่ว่าจะเรียนที่ไหนคุณภาพก็เหมือนกัน เพียงแต่ต้องตั้งใจเรียนให้มาก แต่ไม่ต้องเครียดจนเกินไป อย่างไรก็ตามขอเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนๆ ทุกคนที่พลาดจากแอดมิสชั่น อยากให้ลุกขึ้นเดินไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็ง เพราะยังมีมหาวิทยาลัยดีๆ ที่รองรับให้เราได้เข้าเรียนอีกมาก
น.ส.ชนม์นิภา นิ่มธุภะริยะ หรือ “นุ๊ก” โรงเรียนสระบุรีวิทยาคม คะแนนสูงสุดคณะมนุษยศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ดีใจและตื่นเต้นมากที่ได้รู้ว่าผ่านแอดมิชชั่น ในคณะนี้ เพราะชอบเรื่องภาษา  อีกทั้งตั้งใจเรียนในห้องเรียนและทำงานส่งอาจารย์ให้ครบถ้วนตามที่ได้รับมอบหมาย  เพราะสิ่งเหล่านี้ได้ประโยชน์ต่อตัวเราและช่วยให้ผลสอบดีด้วย อย่างไรก็ตาม ตนเรียนกวดวิชา เพราะบังคับตนเองให้อ่านหนังสือเองไม่ได้  และอยากเสริมความรู้เพิ่มเติมนอกเหนือจากที่เรียนในห้องเรียน   แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องเรียนกวดวิชา เพราะมีเพื่อนของตนหลายคนไม่ได้เรียนกวดวิชาแต่สอบแอดมิชชั่นได้
นายจารุเดช บุญญสิทธิ์ หรือ “น้องฟอร์ด” จากโรงเรียนจิตรลดา คะแนนสูงสุดคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า  ดีใจ และไม่คิดว่าจะมีคะแนนเป็นอันดับหนึ่งของคณะ อยากฝากบอกเพื่อนๆที่ไม่ติดแอดมมิชชั่นขอให้สู้ต่อไป ส่วนเคล็ดลับในการเรียนให้ตั้งใจเรียนในห้องให้ดี และอาจจะหาที่กวดวิชาเพิ่มบ้าง เพราะมองว่าการเรียนในห้องเรียนอย่างเดียวนั้นความรู้ไม่พอที่จะไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้  และโชคดีที่โรงเรียนจิตรลดามีการนำการทดสอบความถนัดทั่วไปหรือแกตมาให้นักเรียนได้เรียนรู้ นอกจากนี้อยากกระทรวงศึกษาธิการปรับหลักสูตรโดยตัดบางวิชาที่ไม่จำเป็นออก แต่แอดมิชชั่นไม่ควรปรับบ่อย เพราะจะทำให้เด็กเตรียมตัวไม่ทัน.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พ่วงสะเพร่าขนแท่นเจาะชนสะพานลอยถล่มทับปิกอัพเคราะห์ร้ายดับสยอง













รถพ่วงสุดชุ่ยก่อเหตุซ้ำซ้อน 2 จุดรวด จุดแรกพ่วง 28 ล้อ ขนแท่นเจาะน้ำมันสูง 6 เมตร เกี่ยวสะพายลอยถนนบรมราชชนนีใกล้แยกสาย 3 พังถล่มทับปิกอัพ ดับสยองคาพวงมาลัย 1 ศพ จราจรอัมพาต ส่วนอีกจุด พ่วง 18 ล้อ ทำส่วนพ่วงหล่นบนสะพานข้ามคลองภาษีเจริญ ติดขัดเช่นกัน

เมื่อวันที่ 10 พ.ค.  ร.ต.ท.วสันต์ มั่นคง ร้อยเวร สน.ธรรมศาลา ได้รับแจ้งเหตุรถพ่วงเกี่ยวสะพานลอยโค่นลงมาทับผู้ขับรถยนต์เสียชีวิต บริเวณหน้าปั๊มน้ำมันบางจาก ถนนบรมราชชนนีขาออก ตัดถนนพุทธมณฑลสาย 3 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่สำนักงานบำรุงทางธนบุรี กรมทางหลวง และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนช่องทางเดินรถคู่ขนานเลนขวาสุด เจ้าหน้าที่พบรถกระบะยี่ห้อมาสด้า รุ่นบีที 50 สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บม 9630 พิษณุโลก บรรทุกเนื้อควายมาเต็มคัน จอดอยู่ในสภาพตัวถังรถด้านหน้าตั้งแต่ฝากระโปรงถึงห้องโดยสารถูกแผ่นคอนกรีตสะพานลอยร่วงลงมาทับจนพังบี้แบน เป็นเหตุให้ผู้ขับที่อยู่ในรถเสียชีวิตคาพ่วงมาลัย  ต่อมาทางหน่วยกู้ภัยได้ช่วยกันใช้อุปกรณ์ตัดถ่างนำร่างออกมาชันสูตรด้วยความทุลักทุเล โดยใช้เวลากว่า 30 นาที จึงนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากตัวรถได้ ทราบชื่อผู้ตายต่อมาคือ นายมนัส มะทะหมัด อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101/801 หมู่ 7 แขวงลำผักชี เขตหนองจอก  สภาพใบหน้ายุบ กะโหลกศีรษะแตกเลือดปนมันสมองกระจายเกลื่อน แขนขาทั้งสองข้างหักผิดรูป เจ้าหน้าที่จึงส่งชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน บริเวณใกล้เคียง พบรถพ่วง 28 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 70-6734 ชลบุรี ของ บจก.หลักทอง โลจิสติกส์ บรรทุกอุปกรณ์แท่นเจาะน้ำมันกลางทะเลขนาดใหญ่สูง 6 เมตร จอดแน่นิ่งอยู่ซึ่งมี นายทนงศักดิ์ สถิตเป้า อายุ 43 ปี เป็นโชเฟอร์ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ด้วยสีหน้าตื่นตกใจ โดยเจ้าตัวให้การอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนพร้อมเพื่อนได้ขับรถพ่วงมาด้วยกันรวม 3 คัน เพื่อไปรับอุปกรณ์แท่นเจาะน้ำมันจากโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.แปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนจะมุ่งหน้าไปส่งให้ลูกค้าที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยระหว่างที่ขับตามกันออกมา ทางนายจ้างได้จัดหารถเก๋งตำรวจจราจรกลางมาขับนำทางให้เพื่อความสะดวก  แต่ขณะที่ขบวนรถแล่นผ่านตรงจุดเกิดเหตุซึ่งตอนนั้นตนขับรถนำอยู่หัวขบวนในเลนซ้ายสุดกลับรู้สึกว่าท่อน้ำมันขนาดใหญ่ที่มีความยาวราว 10 เมตร และสูงจากพื้นดินเกือบ 6 เมตร ที่ติดตั้งอยู่กับอุปกรณ์แท่นเจาะน้ำมันด้านบนเกิดไปเกี่ยวชนกับสะพานลอยจนถล่มลงมา ก่แอนร่วงมาทับรถกระบะที่พยายามแซงออกทางเลนขวาจนทำให้คนขับรถกระบะเสียชีวิต แต่อย่างไรก็ตามรถพ่วงอีก 2 คัน ด้านท้ายสามารถหยุดรถได้ทันจึงไม่พุ่งชนกันซ้ำซ้อน ส่วนรถตำรวจที่เปิดไฟนำทางมาตั้งแต่ทีแรกก็ได้เร่งเครื่องหายไป ตนไม่แน่ใจว่าคนขับรถนำทางจะรู้หรือเปล่าเรื่องรถในขบวนประสบอุบัติเหตุ
ด้าน นายณรงค์ศักดิ์ นันทคำภิรา รองผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรม สำนักงานบำรุงทางธนบุรี กรมทางหลวง เปิดเผยว่า สะพานลอยดังกล่าวก่อสร้างขึ้นเพื่อให้คนเดินข้ามระหว่างถนนบรมราชชนนีฝั่งขาเข้าและขาออก มีระยะทางยาวประมาณ 60 เมตร สูงจากพื้นถนน 6 เมตร ส่วนพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายคือแผ่นคอนกรีตที่ใช้เดินเท้าพังถล่มลงมาทับเส้นทางการจราจรตลอดแนวในฝั่งขาออกยาวกว่า 30 เมตร น้ำหนักร่วม 30 ตัน มูลค่าราว 3 ล้านบาทเศษ เบื้องต้นขณะนี้ได้ประสานให้รถเครนขนาดใหญ่ จำนวน 4 คัน เร่งเดินทางมาช่วยกันยกแผ่นคอนกรีตให้พ้นทางการจราจรแล้วคาดว่าจะใช้เวลานานกว่า 6 ชั่วโมง ถึงแล้วเสร็จจนสามารถเปิดเส้นทางการจราจรให้ประชาชนสัญจรใช้งานได้ตามปกติ
ส่วน ร.ต.ท.วสันต์ กล่าวว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายทนงศักดิ์ โชเฟอร์รถพ่วงไปทำการสอบสวนที่สน. ก่อนที่จะแจ้งข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและทรัพย์สินทางราชการได้รับความเสียหาย เอาไว้ก่อน ส่วนเรื่องการช่วยเหลือชดเชยค่าทำศพของผู้เสียชีวิตและการชดใช้ความเสียหายทั้งหมดทางบริษัทเจ้าของรถได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ประกันภัยเข้ามาดำเนินการแล้ว สำหรับประเด็นที่มีรถตำรวจจราจรกลางขับนำขบวนรถพ่วงมานั้นยังไม่ทราบรายละเอียดเนื่องจากไม่ได้มีการประสานเอาไว้ก่อน
ขณะที่ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก.จร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถรื้อย้ายคานสะพานลอย และรถปิกอัพพร้อมผู้เสียชีวิตออกจากที่เกิดเหตุได้ โดยต้องรอรถยกขนาดใหญ่ ทำให้รถไม่สามารถใช้เส้นทางวิ่งผ่านได้ ส่งผลให้ขณะนี้การจราจรบนถนนบรมราชชนนีขาออกติดขัดมากถึงขั้นอัมพาต ท้ายแถวอยู่ที่ต่างระดับฉิมพลี เป็นระยะทางประมาณ 3 กม. ซึ่งผู้ที่จะใช้เส้นทางถนนบรมราชชนนีขาออกต้องเลี่ยงเส้นทาง เข้าใช้ถนนพุทธมณฑลสาย 2 สาย 3 ไปออกสาย 4

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า มีรถพ่วง 18 ล้อ ทำส่วนพ่วงหลุดร่วงบนสะพานข้ามคลองภาษีเจริญ ภายในซอยเพชรเกษม 81 จนกีดขวางการจราจร ทำให้รถไม่สามารถวิ่งผ่านได้ แนะนำให้ผู้ขับขี่เลี่ยงใช้ซอยเพชรเกษม 69 ที่ทะลุเชื่อมต่อกันได้แทน เพราะเชื่อว่าเหตุดังกล่าวสร้างปัญหาจราจรอีกหลายชั่วโมง

รถบัสโดยสารตกแม่น้ำในอินเดีย ดับ 39 ศพ



สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากจีรี รัฐฮิมาจัลประเทศ ของอินเดีย เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ว่า เกิดอุบัติเหตุรถบัสโดยสารพุ่งตกลงไปในแม่น้ำสายหนึ่งในภาคเหนือของอินเดียเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 39 คน โดยรถยนต์คันดังกล่าว ซึ่งเป็นของบริษัทเอกชน บรรทุกผู้โดยสารมาเต็มคันรถ อุบัติเหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ใกล้กับเมืองจีรี ห่างจากเมืองคุลลู ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ประมาณ 20 กิโลเมตร

เจ้าหน้าที่กล่าวว่า จำนวนผู้เสียชีวิตคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้น ส่วนศพผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยต้องช่วยกันนำขึ้นจากแม่น้ำ ที่มีกระแสน้ำไหลเชี่ยว ขณะที่ ผู้ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

มีไทยมุงจำนวนมากมารอดูเหตุการณ์อยู่ในที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือเจ้าหน้าที่เก็บศพด้วย สำหรับจุดที่เกิดอุบัติเหตุนั้น เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับกีฬาผจญภัย ทั้งนี้ อุบัติเหตุบนท้องถนนมักเกิดขึ้นเป็นปกติในอินเดีย ซึ่งถนนส่วนใหญ่ไม่มีคุณภาพและการขับรถก็เป็นเรื่องปกติเช่นกัน

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More

 
Design Downloaded from Free Blogger Templates Download | free website templates downloads | Vector Graphics | Web Design Resources Download.