
มหาวิทยาลัยวิจัยครวญ ถูกตัดงบฯสาหัส จน ทำงานลำบาก วอนรัฐเข้าใจงานวิจัยต้องใช้เวลา อย่ามองแค่ปริมาณ ขอดูคุณภาพ และสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เป็นแค่เทศกาล
จากการเสวนา" 3 ปี โครงการมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติกับก้าวต่อไปของการพัฒนา" จัดโดยสถาบันวิทยาการขั้นสูงแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่โรงแรมเซนทารา แกรนด์  เซ็นทรัล พลาซ่า   รศ.ดร.ชวนี  ทองโรจน์  ที่ปรึกษาด้านภูมิปัญญาท้องถิ่น สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) กล่าวว่า   สกอ.เข้าใจถึงปัญหาของมหาวิทยาลัยวิจัย  และรู้ว่าการลงทุนทำงานวิจัยนั้นไม่สามารถที่จะเนรมิตให้เห็นผลได้ทันที   แม้ไม่เห็นผลเรื่องของปริมาณหรือชิ้นงาน  แต่อย่างน้อยควรเห็นผลเรื่องของคุณภาพงานวิจัยที่จะสามารถนำไปพัฒนาประเทศได้  ซึ่งการทำวิจัยนั้นอยากให้มหาวิทยาลัยวิจัยทำงานร่วมกันหน่วยงานอื่นๆ มากขึ้นด้วย    
ขณะนี้สกอ.กำลังสรุปผลการดำเนินงานและผลงานของมหาวิทยาลัยวิจัยทั้งหมด  เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลให้เห็นความสำคัญของงานวิจัย พร้อมใช่เป็นข้อมูลเสนอของบฯเพิ่มเติมในปีงบฯ 2557  ที่เหลืออีก 1,667 ล้านบาท  จากที่มีการตั้งงบฯมหาวิทยาลัยวิจัย  ปี  จำนวน 5,000 ล้านบาท   ปี 2554 ได้รับ 2,000 ล้านบาท ปี 2555 ได้รับ 833 ล้านบท และปี 2556 ได้รับ เพียง500 ล้านบาท   อย่างไรก็ตามสกอ.ยืนยันจะเดินหน้ามหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติต่อไป เพราะเห็นความสำคัญของงานวิจัย  และทุกประเทศให้ความสำคัญกับเรื่องงานวิจัยเช่นกัน แต่ถ้าประเทศไหนไม่สนใจถือว่าล้าหลัง
ศ.ดร.วิชัย บุญแสง ผอ.โครงการส่งเสริมการวิจัยในอุดมศึกษาและการพัฒนามหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยวิจัย 9 แห่ง เกิดโครงการวิจัยต่าง ๆ 900 โครงการ ทำให้เห็นว่ามหาวิทยาลัยไทยสามารถสร้างผลงานวิจัยที่มีคุณภาพ ส่วนงานวิจัยนั้นไม่ใช่ว่าจะเห็นผลได้ภายใน1-3 ปี แต่ต้องใช้ระยะเวลา และทำกันอย่างต่อเนื่อง
ด้าน ศ.นพ.ประสิทธิ์ ผลิตผลการพิมพ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย ม.มหิดล กล่าวว่า การวัดผลลัพธ์จากการลงทุนวิจัย ว่า 1 ปีได้อะไรบ้าง เป็นเรื่องยาก แต่ผลวิจัยถือว่าคุ้มค่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมางบฯมหาวิทยาลัยวิจัยถูกตัดอย่างสาหัส จนทำให้มหาวิทยาลัยวิจัยทำงานลำบาก แต่เราต้องเดินหน้าและเอาเงินรายได้ของมหาวิทยาลัยมาช่วย
ศ.นพ.สุทธิพันธ์ จิตพิมลมาศ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและการถ่ายทอดเทคโนโลยี ม.ขอนแก่น กล่าวว่า ผลของมหาวิทยาลัยวิจัยทำให้เกิดการร่วมมือกันของนักวิจัยมากขึ้น เกิดการทำงานวิจัยชิ้นใหญ่ และช่วยแก้ปัญหาของประเทศชาติได้มาก ดังนั้นควรมีโครงการมหาวิทยาลัยต่อไป
ศ.ดร.ผดุงศักดิ์ รัตนเดโช ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายบริการวิชาการและวิจัย ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวว่า งบฯโครงการมหาวิทยาลัยวิจัยเป็นเพียงการหล่อลื่นเกิดงานวิจัย แต่มหาวิทยาลัยต้องทุ่มเทงบฯหรือยืนด้วยตนเอง เพื่อเกิดงานวิจัยที่มีคุณภาพ และนำมาใช้เกิดประโยชน์ได้จริง ๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานงาน ในการเสวนาครั้งนี้ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ส่วนใหญ่เห็นว่ารัฐบาลควรให้ความสำคัญกับการวิจัยมากขึ้น และผลักดันให้มีโครงการมหาวิทยาลัยวิจัยต่อไป เพราะทำให้เกิดการกระตุ้นหรือจุดประกายให้อาจารย์ในมหาวิทยาลัยได้ทำวิจัยมากขึ้น และสร้างองค์ความรู้ใหม่ ๆ ที่จะมาช่วยแก้ปัญหาและพัฒนาประเทศ นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอให้ลงทุนการวิจัยอย่างต่อเนื่อง และต้องไม่จัดโครงการมหาวิทยาลัยวิจัยเป็นเหมือนเทศกาล เพราะถ้าเป็นเทศกาลแล้ว 2-3 ปีจะเลิกไปเหมือนกับหลาย ๆโครงการ





0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น