"เชเฟอร์-มุ้ย" หวั่นพิษหญ้าเทียมแดนลอดช่อง

"เชเฟอร์" หวั่นสนามหญ้าเทียมทำพิษ! นัดเยือน "ลอดช่อง" เล็งหาที่ซ้อมให้ชิน ก่อนออกไปเยือน ยอมรับไม่เคยประมาท "ลอดช่อง" ย้ำทุกทีมในอาเซียน เล่นในบ้านแกร่งทั้งนั้น ปล่อย "แข้งไทย" พัก 1 วัน ก่อนนัดประชุมแจงแผนการซ้อม ส่วน "ธีรศิลป์" บอกไม่ง่าย เหตุเคยเล่นในสนาม "จาลัน เบเซอร์" มาแล้ว ทำป่วนได้เหมือนกัน ขณะที่ "บิ๊กเปี๊ยก" เผยเกมรอบชิงชนะเลิศ นัดที่ 2 ใช้ "สนามศุภชลาศัย" เหมือนเดิม

ความเคลื่อนไหวของนักเตะทีมชาติไทยที่เข้าแข่งขันฟุตบอล "เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2012" ซึ่ง "ช้างศึก" สามารถผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้ แต่จะต้องออกไปเยือน "ลอดช่อง" สิงคโปร์ นัดแรก ในวันที่ 19 ธ.ค. จากนั้นจะกลับมาเปิดบ้านรอรับ สิงคโปร์ ในวันที่ 22 ธ.ค. นั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. "วินนี่" วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทย ได้นำนักเตะตัวสำรองและผู้เล่นที่ไม่ได้ลงสนามจากนัดที่เปิดบ้านเอาชนะ "เสือเหลือง" มาเลเซีย 2-0 เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. เดินทางไปฝึกซ้อมที่สนามไทเบฟ ส่วนนักเตะตัวจริงให้เล่นน้ำในสระว่ายน้ำที่โรงแรมเอสซี.ปาร์ค เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ขณะที่ช่วงเย็นได้ปล่อยให้นักเตะกลับไปพักผ่อนที่บ้าน และนัดให้มารายงานตัวในวันที่ 15 ธ.ค.เวลา 19.00 น.

ขณะที่ เชเฟอร์ กล่าวว่า หลังจากที่นักเตะไทยได้กรำศึกมาหนัก 2 นัด ก็อยากจะให้พักกัน 1 วัน จากนั้นเมื่อกลับเข้ามารายงานตัวในวันที่ 15 ธ.ค. จะมีการรับประทานอาหารร่วมกันและประชุมทีม เพื่อวางแนวทางการฝึกซ้อม รวมทั้งดูเทปการแข่งขันของ ไทย กับ มาเลเซีย บอกจุดดี-จุดเด่น ข้อแก้ไขต่าง ๆ รวมทั้งดูการเล่นของ สิงคโปร์ เพื่อจะให้นักเตะไทยได้รู้ว่า จะต้องทำอะไรในการฝึกซ้อม และต้องเล่นตามแท็คติก อย่างไรในการบุกไปเยือน ส่วนการเล่นที่สนาม จาลัน เบเซอร์ ซึ่งเป็นสนามหญ้าเทียม ถือว่ามีความหนักใจเหมือนกัน เนื่องจากพื้นสนามและการกระเด้งของลูกจะแตกต่างจากสนามหญ้าจริงมาก ดังนั้น คงจะต้องใช้เวลาในวันที่ 16 ม.ค. เดินทางไปฝึกซ้อมที่สนามลีโอ (ปทุมธานี) ของสโมสรบางกอกกล๊าส ที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ประสานงานไว้ให้ และการไปซ้อมที่ สิงคโปร์ คงจะต้องให้ สมาคมฟุตบอลฯ รีบประสาน เพื่อหาสนามหญ้าเทียมไว้ซ้อมที่โน่นด้วยเช่นกัน

เชเฟอร์ กล่าวว่า "ผมไม่เคยประมาททีมไหนเลย อย่าง สิงคโปร์ ก็มีความน่ากลัว เพราะเล่นเกมโต้กลับจนเอาชนะ มาเลเซีย 3-0 ในการเตะรอบแรก และทุกทีมในอาเซียน เวลาได้เล่นในบ้านก็จะมีความแข็งแกร่งขึ้นมาเสมอ ดังนั้นจะต้องเตรียมทีมให้พร้อมที่สุด ซึ่งสภาพของนักเตะไทยตอนนี้ ต้องบอกว่ายังฟิตกันดี ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ส่วนช่วงนี้ทางสตาฟฟ์โค้ชก็จะเร่งวางแท็คติก เตรียมทุกอย่างไว้ให้กับนักเตะไทยเพื่อให้มีความพร้อมมากที่สุด โดยเฉพาะการป้องกันลูกโยน ลูกเปิดจากกราบทั้ง 2 ข้าง เพราะ สิงคโปร์ มีกองหน้ารูปร่างใหญ่อย่าง อเล็กซานเดอร์ ดูริค ที่เล่นลูกโหม่งได้ดี"

ส่วน "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ดาวยิงที่ซัดไปแล้ว 5 ลูกในรายการนี้ กล่าวว่าเคยมีโอกาสได้ไปเล่นในสนามจาลัน เบเซอร์ มาก่อน และก็พบว่าเป็นการเล่นที่ยากลำบาก สภาพสนามแข็ง ลูกตกและกระดอนไม่เหมือนกับหญ้าจริง จังหวะการทำชิ่ง จังหวะจ่ายบอล จะคาดเดาน้ำหนักได้ยาก ไม่เหมือนกับสนามหญ้าจริง แต่ก็เชื่อว่านักเตะไทยน่าจะปรับตัวให้คุ้นเคยกับการเล่นในสนามแบบนี้ได้ เพราะในไทยพรีเมียร์ลีกก็เคยมีโอกาสไปเล่นที่สนามลีโอ ของ บางกอกกล๊าส มาบ้างแล้ว

ด้าน "บิ๊กเปี๊ยก" นายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ กล่าวว่า ในการเตะรอบชิงชนะเลิศ นัดที่ 2 วันที่ 22 ธ.ค.นั้น จะเล่นกันที่สนามศุภชลาศัย เวลา 19.00 น. คงจะไม่สามารถย้ายไปเล่นที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ได้ทัน เพราะแม้การแข่งขันรถยนต์ "เรซ ออฟ แชมเปี้ยนส์" จะเสร็จในวันที่ 16 ธ.ค. แต่กว่าจะมีการเก็บของเสร็จต้องใช้เวลา 3-4 วัน (วันที่ 19-20 ธ.ค.) คงจะไม่ทันให้ สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ) เข้าไปตรวจสนาม ซึ่งตามกฎระบุไว้ว่า จะต้องส่งมอบสนามให้ เอเอฟเอฟ ก่อนหน้าการแข่งขัน 3 วัน.

Posted in: ข่าว